ไอทีชะงักงันหัวเว่ยฯร่วมฟื้นฟู7นิคม
น้ำท่วมกระทบกำลังซื้อ สินค้าไอทีขาด คาดจบปีตลาดไม่โต หวังปีหน้าลูกค้าลงทุนรับภัยพิบัติ ระดมช่วยนิคมฯ 7 แห่ง
น้ำท่วมกระทบกำลังซื้อ สินค้าไอทีขาด คาดจบปีตลาดไม่โต หวังปีหน้าลูกค้าลงทุนรับภัยพิบัติ ระดมช่วยนิคมฯ 7 แห่ง
นายสมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ ผู้จำหน่ายสินค้าและบริการด้านไอที เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดไอทีตั้งแต่เดือน ต.ค.ถือว่าหยุดชะงักทั้งหมด จากการชะลอตัวของโครงการต่างๆ รวมทั้งกำลังซื้อในตลาดทั่วไปด้วย จึงคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดรวมไอทีในปีนี้ ไม่มีการเติบโตหรือหดตัวลงจากปีก่อน
สำหรับบริษัทต้องมีการปรับเป้าหมายเช่นกัน จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 30% โดยอาจไม่มีการเติบโตเช่นเดียวกับตลาดรวม เพราะตลาดใหญ่สุดของภาคไอทีคือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งยอดขายหายไปในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ขณะที่ภูมิภาคอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการขนส่งสินค้า
ที่ไม่สามารถทำได้ แม้จะไม่มีความเสียหายแต่ในเชิงธุรกิจถือว่าเป็นผลกระทบในเชิงลบ
“ยิ่งน้ำท่วมจบเร็วเท่าไร สถานการณ์ตลาดน่าจะดีขึ้นเร็วเท่านั้น แต่เชื่อว่าต้องรอถึงครึ่งปีหน้า เพราะช่วงแรกจะเป็นการซ่อมแซมฟื้นฟู จากนั้นจะเริ่มมีการลงทุนระบบไอทีใหม่เพื่อรับมือภัยพิบัติ แต่ตลาดทั่วไปกำลังซื้ออาจชะลอยาวได้” นายสมศักดิ์ กล่าว
พร้อมกันนี้ เดอะแวลลูซิสเตมส์ได้ร่วมมือกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ มอบอุปกรณ์โซลูชันสำหรับการเชื่อมต่อภายในองค์กร 300 ชุด พร้อมติดตั้งระบบโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทให้บริษัทในโรงงานอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่ง ที่ประสบภัยน้ำท่วม รวมถึงโรงงานอื่นๆ ในเขตที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้กลับมาทำงานได้เร็วที่สุด พร้อมจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ
นายหยางหัว ประธานกลุ่มธุรกิจเอนเตอร์ไพรส์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของหัวเว่ยฯ กล่าวว่า ไทยเป็นฐานการผลิตหลักในหลายอุตสาหกรรมและเป็นตลาดหลักของหัวเว่ยฯ โดยหัวเว่ยฯได้เข้ามาเปิดธุรกิจเอนเตอร์ไพรส์แล้ว 67 เดือน จึงเป็นโอกาสสร้างการรับรู้ไปพร้อมกับช่วยเหลือ และมุ่งขยายตลาดลูกค้ากลุ่มอื่นมากขึ้น จากเดิมที่แข็งแกร่งในภาคโทรคมนาคม
“การเข้าทำตลาดเอนเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย สามารถทำได้ดีในตลาดระดับโลก ตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ 4,000 ล้านดอลลาร์ และภูมิภาคเอเชียก็เป็นตลาดสำคัญ ซึ่งไทยก็เป็นหนึ่งในตลาดหลัก เพราะเป็นฐานผลิตในอุตสาหกรรมจำนวนมาก” นายหยางกล่าว


