ศรีไทยฯร่วมเบียร์ลาวขยายธุรกิจขายตรง

ศรีไทยฯ ร่วมทุนเบียร์ลาว ขยายธุรกิจขายตรงเอสเนเจอร์ ตั้งเป้า 2 ปี บุก 6 ประเทศ รวมอินเดีย ปีนี้หวังกวาดยอด 400 ล้านบาท

นายบัญชา เหมินทคุณ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจเครือข่ายเอสเนเจอร์ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ กล่าวว่า ภายใน 2 ปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายขยายธุรกิจขายตรงเอสเนเจอร์ในภูมิภาคอาเซียนให้ครบ 6 ประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซียและอินเดีย ล่าสุด ได้ร่วมทุนกับบริษัท เบียร์ลาว ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อขยายธุรกิจเอสเนเจอร์ โดยศรีไทยฯถือหุ้น 80% เบียร์ลาวถือหุ้น 20% ทุนจดทะเบียน 3-5 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ บริษัทเปิดสำนักงานที่พม่าเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และธุรกิจเติบโตค่อนข้างดี เนื่องจากคนพม่ามีกำลังซื้อสูงและให้ความสนใจซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคิดเป็นสัดส่วน 70% คาดว่าภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า ยอดขายในประเทศพม่าจะอยู่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน

นอกจากนี้ บริษัทได้เลื่อนแผนเปิดสำนักงานในประเทศกัมพูชาเร็วขึ้นเป็นภายในปีนี้ โดยเปิดในรูปแบบเป็นศูนย์กระจายสินค้าก่อน จากเดิมที่จะเปิดในปีหน้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และคาดว่าจะเปิดเป็นสำนักงานได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2555 จากนั้นจะเปิดประเทศเวียดนามเป็นลำดับต่อไป ตามด้วยอินโดนีเซียและอินเดีย

“ตลาดในอาเซียนมีศักยภาพในการเติบโตสูง อย่างในประเทศลาวเชื่อว่าจะมียอดเติบโตสูงเช่นเดียวกัน แม้ประชากรจะมีแค่ 3-5 ล้านคน แต่แผนจ่ายผลตอบแทนของธุรกิจเอสเนเจอร์ เปิดให้นักธุรกิจสามารถขยายเครือข่ายข้ามประเทศได้ เชื่อว่าจะทำให้เข้าถึงคนไทยในเขตชายแดนได้เพิ่ม” นายบัญชากล่าว

สำหรับแผนการขยายตลาดในต่างประเทศ จะเริ่มก้าวสู่ภูมิภาคอื่น ๆ เช่น เกาหลี, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกาและยุโรป เป็นลำดับต่อไป ส่วนรายได้จากต่างประเทศ ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ แต่ในประเทศไทยปีนี้คาดหวังรายได้ 350-400 ล้านบาท โดยครึ่งแรกของปีนี้เติบโตจากปีที่แล้ว 200-300%

นายบัญชา กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญในการขยายตลาดอาเซียน คือการพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล ล่าสุดบริษัทได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท ไบโอแลป ในเครือบริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาแห่งแรกและแห่งเดียวที่ได้รับรองมาตรฐาน EU GMP (PIC/s) จากสหภาพยุโรป ผลิตสินค้าตัวแรก คือ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสกัดจากกุ้งทะเลลึกแอนตาร์คติค คาดว่าจะเพิ่มยอดขาย 20 ล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้

สำหรับปีนี้ บริษัทใช้งบลงทุนรวม 300 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะทยอยเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังอีก 10 รายการ การเปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่จ.อุดร ถือเป็นสาขาที่ 5 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อจากนครราชสีมา, สกลนคร, ร้อยเอ็ด และขอนแก่น และการขยายพื้นที่สำนักงานใหญ่ที่กทม.อีก 200 ตารางเมตร เพื่อสร้างแล็ปตรวจสุขภาพให้กับลูกค้า