posttoday

กระบะจีนใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถป้อนอาเซียน

19 กรกฎาคม 2554

"ตงฟง มอเตอร์ส" เทงบ 300 ล้านบาท เดินสายผลิตรถกระบะมินิทรัค ในไทยปลายปีนี้พร้อมส่งขายในอาเซียน

"ตงฟง มอเตอร์ส" เทงบ 300 ล้านบาท เดินสายผลิตรถกระบะมินิทรัค ในไทยปลายปีนี้พร้อมส่งขายในอาเซียน

นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี เอฟ เอ็ม มินิทรั๊ค (ประเทศไทย)  หรือ ตงฟง มอเตอร์ส ผู้ผลิตและทำตลาดรถกระบะมินิทรัค และมินิแวน จากประเทศจีน เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้เงินลงทุนระยะแรก (เฟส1) จำนวน 300 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานผลิตกระบะมินิทรั๊ค และมินิแวน ของ ตงฟง มอเตอร์ส ที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์  จ.ฉะเชิงเฉรา ขนาดพื้นที่ 30 ไร่ มีกำลังการผลิต 5,000 คันต่อปี คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องการผลิตได้ในเดือน ต.ค.นี้ จากเดิมนำเข้าจากประเทศจีนเท่านั้น และนโยบายของบริษัทแม่จะใช้ไทยเป็นฐานส่งออกรถไปในตลาดอาเซียน 10 ประเทศ เพราะเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่

กระบะจีนใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถป้อนอาเซียน รถกระบะมินิทรัค

สำหรับเหตุผลที่บริษัทแม่เลือกใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้า เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจากเข้ามาทำตลาดในไทยแล้วสร้างยอดขายเติบโตปีละ 2-3 เท่าตัวทุกปี และไทยสามารถสร้างยอดขายในปีก่อนสูงถึง 2,000 คัน มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน แตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่มียอดขายปีละ 100 คันเท่านั้น ประกอบกับ การผลิตรถยนต์ในประเทศยังส่งผลดีที่ช่วยลดต้นทุนด้านภาษีนำเข้าถึง 40% โดยโรงงานแห่งนี้จะมีแผนลงทุนเฟส 2 ต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นโรงงานที่มีบริษัทแม่จากประเทศจีนเข้ามาร่วมทุนด้วย

ส่วนแผนการตลาดในครึ่งปีหลัง ได้ใช้งบ 50 ล้านบาท  โดยร่วมมือกับบริษัท แกรมมี่ โกลด์ เพื่อจัดงาน มหกรรมโรดโชว์กระบะมินิทรัค จากตงฟง มอเตอร์ส ไปใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสร้างแบรนด์สู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเป็นงบที่ใช้ดำเนินการเป็นเวลา 2 ปีและมีบริษัทแม่เข้ามาร่วมลงทุนในสัดส่วน 50% โดยการทำกิจกรรมในครั้งนี้ เพราะทีผ่านมากลุ่มลูกค้ายังไม่รู้จัก ตงฟง มอเตอร์ส มากนัก และนิยมใช้กระบะขนาดเล็กที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก

นอกจากนี้ในปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดโชว์รูมแห่งใหม่อีก 8 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ให้ครบ 80 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีโชว์รูมเปิดให้บริการจำนวน 42 แห่ง รวมทั้งในช่วงปลายปี เตรียมเปิดตัวกระตู้ ขนาด 7 ที่นั่ง ราคาไม่เกิน 4 แสนบาทเข้ามาทำตลาดด้วย โดยมั่นใจว่า ในสิ้นปีนี้หลังจากรุกทำตลาดจริงจังจะสร้างยอดขายในสิ้นปีนี้ได้ 3,000 คัน

ส่วนภาพรวมยอดขายในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเติบโต 1,500 คัน เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ขณะที่ภาพรวมตลาดรถกระบะขนาดเล็กที่มีจำนวนมากกว่า 2 หมื่นคันนั้น แบ่งเป็น ตลาดรถกระบะมือสองที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น 1.3 หมื่นคัน อีก 5,000 คันเป็นแบรนด์ ซูซูกิ และที่เหลือเป็น ตงฟง มอเตอร์ส โดยบริษัทจะเน้นดึงกลุ่มลูกค้าที่นิยมใช้รถกระบะขนาดเล็กมือสองจากประเทศญี่ปุ่นให้เข้ามาใช้รถของบริษัทมากที่สุด เพราะราคา ตงฟง มอเตอร์ส จะเริ่มต้นที่ 2.89 แสนบาท

ข่าวล่าสุด

เปิดโปรแกรมวอลเลย์บอลหญิง ซีเกมส์ 2025 รอบรองฯ ไทยดวลอินโดฯ