posttoday

‘บีบีทอยส์’ ของเล่นยุคใหม่

03 มกราคม 2561

“บริษัท บีบี ทอยส์” ผู้ประกอบธุรกิจของเล่นนำเข้า มีสินค้าหลากหลาย และมุ่งสร้างสรรค์ของเล่นใหม่ๆ เพื่อขยายตลาด กลุ่มลูกค้า คุณพ่อ คุณแม่ยุคใหม่

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

“บริษัท บีบี ทอยส์” ผู้ประกอบธุรกิจของเล่นนำเข้า มีสินค้าหลากหลาย และมุ่งสร้างสรรค์ของเล่นใหม่ๆ เพื่อขยายตลาด กลุ่มลูกค้า คุณพ่อ คุณแม่ยุคใหม่

“อภิญญา วุฒิเมธากุล” กรรมการบริหาร และผู้จัดการฝ่ายบัญชี บริษัท บีบี ทอยส์ (ไทยแลนด์) ผู้ประกอบธุรกิจของเล่นและการนำเข้าของเล่นจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า คุณพ่อและคุณแม่ คือ “สุเมธ และทักษิณา วุฒิเมธากุล” ได้ก่อตั้งธุรกิจเริ่มต้นในชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บีบี ทอยส์ (ไทยแลนด์) ช่วงปี 2548 ซึ่งในช่วงแรกได้เช่าตึกแถวบริเวณถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล จำนวน 2 ห้อง เพื่อทำเป็นออฟฟิศและโกดังเก็บสินค้า พร้อมกับขายสินค้าให้กับร้านค้าในสำเพ็ง ร้านค้าทั่วไปในภาคกลางและปริมณฑล

ต่อมากิจการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง จึงขยายตลาดไปในภูมิภาคต่างๆ รวมถึงขยายสู่ห้างสรรพสินค้า พร้อมสร้างสำนักงานใหญ่อยู่บนที่ดิน และจัดตั้งสู่บริษัท บีบี ทอยส์ (ไทยแลนด์) โดยปัจจุบันสินค้าของบริษัทมีหลากหลายกว่า 1,000 ชนิด ตั้งแต่ของเล่นสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กโต มีลูกค้าทั่วประเทศกว่า 300 ร้านค้า และมีเว็บไซต์ www.bbtoysbangkok.com

สินค้าหลักของเด็กเล่นจะแบ่งเป็น 12 หมวด ได้แก่ ตุ๊กตา หุ่นยนต์ ของเล่นเสริมทักษะ ของเล่นกลางแจ้ง เครื่องดนตรี โมเดลของเล่น ของเล่นบังคับวิทยุ เป็นต้น และสินค้าลิขสิทธิ์ ลูกค้าเป้าหมายมีทั้งร้านค้าต่างๆ และลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปขายทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกตั้งแต่แรกเกิดจนถึงระดับอายุ 3-5 ขวบ

แบรนด์สินค้าที่มุ่งทำตลาด มีทั้ง “Brilliant Block” และ “Big Splash” โดยแบรนด์ Brilliant Block จะเป็นของเล่นประเภทชุดตัวต่อ เหมาะกับเด็กเล็กและเป็นของเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการ ส่วน Big Splash จะเป็นสินค้าประเภทเป่าลมที่มีความโดดเด่น คือ มีรูปลักษณ์แปลกใหม่ มีขนาดใหญ่และสีสันสวยงาม เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่นิยมถ่ายรูปลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก

“อภิญญา” กล่าวว่า ภาพรวมตลาดของเล่นเด็กเติบโตน้อย เพราะอัตราการเกิดของเด็กในประเทศมีแนวโน้มลดลง รวมถึงมีปัจจัยต่างๆ มากระทบจากทั้งเศรษฐกิจโลก ต้นทุนสินค้าและมีการแข่งขันรุนแรงขึ้น ส่งผลให้บริษัทมุ่งพัฒนาสินค้าและเพิ่มไลน์สินค้าให้มีความหลากหลาย รวมถึงปรับสินค้าให้แตกต่างจากจากบริษัทนำเข้าของเล่นรายอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ารุ่นใหม่ รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่

ขณะที่แนวคิดที่บริษัทยึดมาตลอดในการดำเนินธุรกิจ คือยึดถือประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า โดยใช้ระบบการบริหารความเสี่ยงเป็นเครื่องมือบริหารจัดการองค์กร ซึ่งปัจจัยเสี่ยงมีทั้งมาจากปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งขั้นตอนการบริหารความเสี่ยงที่ใช้ คือ 1.ต้องกำหนดเป้าหมายที่ต้องการก่อน 2.ประเมินความเสี่ยงว่าบริษัทมีความเสี่ยงด้านใดบ้างที่เป็นอุปสรรคต่อการไปถึงเป้าหมายนั้น 3.วางแผนบริหารจัดการความเสี่ยงนั้นอย่างเป็นระบบ

“คุณพ่อคุณแม่มักสอนเสมอเรื่องความซื่อตรงต่อลูกค้า และให้โอกาสได้ลองเรียนรู้ด้วยตนเอง ธุรกิจของเราเป็นธุรกิจในครอบครัว ฉะนั้นหน้าที่สำคัญในบริษัทก็แบ่งหน้าที่กันดูแลรับผิดชอบ โดยน้องชายจะดูแลเรื่องฝ่ายขายและนำเข้าสินค้า ส่วนตัวเองจะดูแลด้านบัญชี บุคคลและการบริหารต่างๆ พร้อมมีคุณพ่อคุณแม่จะอยู่เบื้องหลังคอยให้การสนับสนุนและเป็นที่ปรึกษาในเรื่องต่างๆ” อภิญญา กล่าว

แผนงานระยะต่อไป ตั้งเป้าหมายจะขยายตลาดไปยังลูกค้าระดับบนมากขึ้น ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของห้างสรรพสินค้า และลูกค้าช่องทางระบบอี-คอมเมิร์ซ โดยมุ่งสินค้าประเภทของเล่นเสริมทักษะ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของพ่อแม่ยุคใหม่ รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวกับเด็กอ่อน

“อภิญญา” กล่าวทิ้งท้ายว่า ได้เริ่มวางแผนทำแบรนด์สินค้าเกี่ยวกับตัวต่อสำหรับเด็ก ภายใต้แบรนด์ “Brilliant Block” ที่ได้นำไปวางขายในร้าน Toys R Us ทุกสาขาแล้ว โดยมุ่งสินค้าประเภทตัวต่อ เพราะเป็นประโยชน์กับเด็กอย่างมาก ทั้งพัฒนาการทางด้านร่างกาย และความคิดสร้างสรรค์ และ “Big Splash” เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ พร้อมกับจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น