posttoday

กะลาดูดีดีไซน์สวยเก๋

09 กันยายน 2560

“งานแฮนด์เมด ทำแบบละชิ้นเท่านั้นนะคะ ไม่มีซ้ำใครแน่นอน”

 “งานแฮนด์เมด ทำแบบละชิ้นเท่านั้นนะคะ ไม่มีซ้ำใครแน่นอน”เป็นคำยืนยันอย่างหนักแน่นจาก “ยุพาพร ว่องวิกย์การ” เจ้าของแบรนด์“กะลาดูดี” งานเครื่องประดับสวยเก๋ จาก จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์สินค้าโอท็อป ในโครงการ “OTOP ไทยจากท้องถิ่น บินสู่ท้องฟ้า” ของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยเป็นงานหัตถกรรมที่ผลิตจากกะลามะพร้าวที่มีลวดลายในเนื้อกะลาไม่ซ้ำกัน มาผสานกับการ
ใช้หินมงคลมาประดับตกแต่ง

ยุพาพร เล่าให้ฟังว่า เดิมทีเธอรับราชการแต่ได้ตัดสินใจเออร์ลีรีไทร์เพื่อที่จะพบความท้าทายใหม่ๆ อย่างการทำธุรกิจงานฝีมือ โดยเฉพาะสิ่งที่เธอชอบ อย่าง “กะลามะพร้าว” เพราะหลงใหลในลวดลายที่สวยงามของกะลา ซึ่งสามารถนำมาแปรรูปเป็นงานฝีมือต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ ในตอนแรกเป็นการรับมาขาย แต่เพราะงานที่รับมาไม่ถูกใจเลยรื้อและทำใหม่ให้สวยขึ้น และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของงานหัตถกรรมชิ้นเด่นในวันนี้

“ก็เริ่มเรียนรู้จากตรงนั้นว่า อ๋อ ต้องทำอย่างไร แล้วด้วยความที่เราไม่ชอบทำงานเหมือนใคร ก็เลยออกแบบเอง และพยายามหาวัตถุดิบอย่างอื่นมาผสมผสานกับกะลา ซึ่งวัตถุดิบหนึ่งที่เวลารวมกันกับกะลาแล้วจะงดงามเด่นชัดมากเลย ก็คือ หินสี เพราะว่าหินมีความสวยงาม มีสีสัน และมีความหมายที่ดี ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก มีออร์เดอร์ทั้งในและต่างประเทศ” ยุพาพร อธิบาย

ยุพาพร เล่าว่า การผลิตผลงานแต่ละชิ้นนั้น เธอเน้นเรื่องความละเอียด ความประณีต ถ้ากะลาหรือหินสีชิ้นไหนไม่ได้คุณภาพ มีรอยแตกรอยบิ่นจะคัดทิ้งอย่างไม่เสียดายเลย เพื่อรักษามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ไว้เพราะนั่นก็คือการให้เกียรติลูกค้าที่อุดหนุนไปด้วย ที่สำคัญคือการไม่เน้นปริมาณ เน้นขายฝีมือ ขายคุณภาพ ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นว่าสินค้าแต่ละแบบจะมีแค่ชิ้นเดียว เวลาได้ใช้ก็จะรู้สึกภูมิใจ

ในการทำงานมากกว่า 10 ปี ยุพาพร บอกว่า ถ้าให้ทำโดยลำพังคงไม่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ การสนับสนุนจากภาครัฐ คือ องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้กะลาดูดีเติบโตได้อย่างงดงาม

“เข้าโครงการอบรมต่างๆ ของกรมการพัฒนาชุมชนเยอะมาก ทั้งในเรื่องของการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ การตลาด บรรจุภัณฑ์ แม้กระทั่งการคิดราคา ต้นทุน กำไร ซึ่งเราก็ได้ความรู้จากตรงนั้นเยอะมาต่อยอดกับสินค้าเรา ตอนนี้ไอเดียต่อไปอยากลองเอาวัตถุดิบอื่นมาแมตช์กับกะลาบ้าง นอกจากหินสีหรือหยก อย่างผ้าทอสวยๆ พอเราลองเอามาทำกับกะลานะ โอ้โห้ สวยมากเลย เด่นสะดุดตาด้วย”

สาเหตุที่ยุพาพรต้องคิดหาวัตถุดิบใหม่ๆ ดีไซน์อยู่เสมอ ก็เป็นเพราะต้องการหนีไปจากการเลียนแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่กะลาดูดีเจออยู่เสมอ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เลียนแบบได้ยาก คือ ความประณีต ความพิถีพิถัน ความใส่ใจในชิ้นงาน เพราะงานเลียนแบบจะหยาบกว่าและไม่เหมือนเป๊ะ
ซึ่งส่วนตัว ยุพาพร ก็เล่าว่า เห็นใจเหมือนกันว่าเขาก็คงอยากทำบ้าง เลยคิดว่าต่อไปอาจจะเปิดสอนแล้ว เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้อง และจะได้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี งานจะได้มีงานที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ปัจจุบันยุพาพรเองก็อายุไม่น้อยแล้ว อยากจะถ่ายทอดไว้ให้เยาวชนรุ่นหลังได้สืบสานเจตนารมณ์เช่นกัน

สนใจลองเข้าไปดูที่ https://www.facebook.com/kaladoodee เพราะนอกจากจะมีหัตถกรรมกะลามะพร้าวเก๋ๆ ให้ช็อปแล้ว เผื่อวันไหน
ยุพาพรเปิดคอร์สจะได้สมัครเรียนเลย ทั้งเก๋าทั้งเก๋เสียขนาดนี้