posttoday

ร่วมมือเกษตรอินทรีย์

21 เมษายน 2560

กลุ่มสินค้าผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรอินทรีย์ (ออร์แกนิก)

โดย...DJ [email protected]

กลุ่มสินค้าผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรอินทรีย์ (ออร์แกนิก) ที่ได้รับความสนใจจากทั้งตัวผู้ปลูกเกษตรกรและกลุ่มผู้บริโภคในตลาดทั้งในและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 3- 4 ปีที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันพบว่าภาคการผลิตในอุตสาหกรรมการเกษตรอินทรีย์กลุ่มดังกล่าวนี้ได้ขยายขอบเขตออกไปกว้างขวางขึ้น จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หันมาให้การสนับสนุนผ่านนโยบายต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรไทยพัฒนาการผลิตเกษตรอินทรีย์ได้ตามมาตรฐานและความต้องการของตลาดโลก

โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีหน้าที่หลักดูแลต่อการทำการค้า การหาตลาดรองรับสินค้าในประเทศ ล่าสุด อภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ระบุถึงการสนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิต หรือฮับ ด้านเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาคได้นั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือไม่ใช่เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น แต่รวมถึงความร่วมมือกับประเทศในกลุ่มอาเซียนอีกด้วย ทำให้กระทรวงพาณิชย์มีแนวความคิดที่จะร่วมมือกับภาคเอกชนไทยและภาคเอกชนในกลุ่มประเทศอาเซียนจัดตั้งสหพันธ์เกษตรอินทรีย์อาเซียน (ASEAN Organic Federation) ขึ้นเป็นครั้งแรก

โดยมุ่งหวังที่จะให้สหพันธ์ดังกล่าวเป็นเวทีในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการผลิตและการตลาดเกษตรอินทรีย์ระหว่างผู้ผลิตและผู้ประกอบการของประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมถึงสร้างความเข้มแข็งและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้ผลิตและผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ในอาเซียนอีกทางหนึ่งด้วย โดยการประชุมจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงระหว่าง Organic & Natural Expo 2017 นี้ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ผู้เข้าร่วมการประชุมจะได้มีโอกาสเห็นศักยภาพของไทยในการที่จะเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาคนี้

ขณะที่งาน Organic & Natural Expo 2017 นั้น ดำเนินการจัดงานติดต่อกันมาเป็นปีที่ 7 โดยในครั้งนี้กำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 27-30 ก.ค. 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งในปีนี้จะเป็นการเปิดความร่วมมือในระดับสากลเป็นครั้งแรกร่วมกับผู้จัดงานเกษตรอินทรีย์ระดับโลกของเยอรมนี คาดจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 4.5 หมื่นรายเลยทีเดียว เนื่องมาจากกระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ จากการจัดงานในปีก่อนมีผู้เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าอินทรีย์/ธรรมชาติ กว่า 300 คูหา และมีผู้สนใจเข้าร่วมชมและช็อปทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในงานกว่า 4.1 หมื่นราย มูลค่าการซื้อขายกว่า 28 ล้านบาท

ต่อการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีทั้งในกลุ่มเกษตรกรในฐานะผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการเกษตรแปรรูปอินทรีย์ที่กำลังมองหาตลาดให้กับสินค้า รวมถึงยังเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าและบริการอินทรีย์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ส่งเสริมสินค้าอินทรีย์และธรรมชาติ และเพื่อสร้างเครือข่ายทางการค้า เพิ่มช่องทางการตลาด รวมทั้งการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ผลิต/เจ้าของสินค้า อีกทั้งผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังเสริมสร้างองค์ความรู้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ในทุกระดับด้านการผลิต การตลาด และการรับรองมาตรฐานสากล ส่งเสริมต่อยอดไปสู่นวัตกรรมที่มีมูลค่า สร้างโอกาสทางการค้ากับผู้ซื้อในประเทศและผู้นำเข้าต่างประเทศ โดยกิจกรรมภายในงานนอกเหนือจากการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์แล้ว ผู้เข้าร่วมงานยังจะได้มีการลองทำเวิร์กช็อป สอนการทำผลิตภัณฑ์อินทรีย์

เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับประชาชนในการหันมาบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกด้วย