posttoday

‘บ้านนาทอง’ จากสิ่งพิมพ์ สู่ธุรกิจสปาครบวงจร

12 เมษายน 2560

เป็นการปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจสิ่งพิมพ์ไทย โดยซีอีโอหญิง “กัญจน์พร มั่งมี” ปรับธุรกิจที่บ้านจากการทำธุรกิจสิ่งพิมพ์สู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์สปา

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

เป็นการปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจสิ่งพิมพ์ไทย โดยซีอีโอหญิง “กัญจน์พร มั่งมี” ปรับธุรกิจที่บ้านจากการทำธุรกิจสิ่งพิมพ์สู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์สปา และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว พร้อมผลักดันให้ธุรกิจเติบโตจนขยายตลาดส่งออก และเปิดสาขาของร้านสปา “บ้านนาทอง เฮลท์ตี้ แอนด์ สปา” ที่ต่างประเทศ

“กัญจน์พร มั่งมี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านนาทอง เฮลท์ตี้ แอนด์ สปา ผู้บริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์สปาและบำรุงผิวและร้านสปาในชื่อ “บ้านนาทอง เฮลท์ตี้ แอนด์ สปา” เปิดเผยว่า ธุรกิจของครอบครัวทำเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายสิ่งพิมพ์มาเป็นเวลาหลายสิบปีต่อมาเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลาดหนังสือที่เริ่มชะลอตัวลงจากตลาดดิจิทัลที่มาแรง ทำให้เริ่มต้องกลับมาทบทวนองค์กรใหม่ และสนใจกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ตลาดมีแนวโน้มขยายตัวดี จึงสนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม รวมถึงผลิตภัณฑ์สปา

ทั้งนี้ สนใจสิ่งที่มีอยู่ในประเทศไทยคือ งาดำ ที่มีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในเรื่องคุณสมบัติ นำมาพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากงาดำได้จำนวนมาก จึงพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ ทั้งน้ำมันงา สบู่ และน้ำมันนวด และผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างครบวงจร ซึ่งมีสินค้ากว่า 33 รายการแล้ว และเป็นผลิตภัณฑ์มาจากธรรมชาติ 100% โดยปีต่อมาจึงได้เริ่มขยายตลาดและการจัดโรดโชว์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและมีลูกค้าเพิ่มขึ้น

อีกทั้งมีลูกค้าที่สนใจต้องการเข้ามาเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และโรงงานผลิตสินค้าที่ จ.นนทบุรีดังนั้นจึงขยายสู่การสร้างร้านสปาอย่างเป็นทางการรองรับความต้องการของลูกค้า หลังจากนั้นจึงมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น รวมถึงมีลูกค้าจากต่างประเทศสนใจแบรนด์สปา “บ้านนาทองเฮลท์ตี้แอนด์สปา” ไปเปิดสาขาในต่างประเทศ โดยได้เปิดสาขาในต่างประเทศแล้วทั้งที่ประเทศจีนเมืองกว่างโจว เมืองเซียะเหมิน และเมืองเฉิงตู ที่มีจำนวน 2 สาขา รวมถึงมีสาขาในประเทศเยอรมนี เมืองมิวนิก

การเปิดสาขาในต่างประเทศจะอยู่ในรูปแบบการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับคนในพื้นที่ รวมทั้งจะให้ทีมให้บริการสปาเป็นคนไทยเท่านั้น เพราะคนไทยมีความเชี่ยวชาญในด้านการนวดระดับสูง อีกทั้งมีศูนย์บ้านนาทองที่เป็นศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมด้านเจ้าหน้าที่สปาอย่างครบวงจร รวมถึงเป็นศูนย์ที่มีมาตรฐานและมีใบรับรอง จึงสามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปทำงานในสาขาต่างประเทศได้ต่อเนื่อง

รวมทั้งการเปิดรูปแบบสาขาในต่างประเทศ จะออกแบบและตกแต่งในรูปแบบที่สื่อถึงความเป็นไทย พร้อมกับให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า และการมีผลิตภัณฑ์สปาครบทุกกลุ่ม ส่งผลให้ลูกค้าตอบรับในระดับดี อีกทั้งรูปแบบสปาของประเทศไทยลูกค้าต่างประเทศจะชื่นชอบมาก

ต่อไปสนใจเปิดสาขาใหม่ต่างประเทศรูปแบบแฟรนไชส์ และต้องเป็นทีมงานของบริษัทที่บริหารจัดการในสาขา ซึ่งแบรนด์จะไม่มีการหยุดนิ่งพร้อมพัฒนาต่อเนื่อง รวมทั้งมีทีมงานวิจัยในประเทศ และร่วมมือกับภาครัฐพัฒนาผลิตภัณฑ์

พร้อมกันนี้บริษัทมีเครือข่ายร้านหนังสือในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย ก็ได้ปรับให้ร้านต่างๆ นำผลิตภัณฑ์ของบ้านนาทองไปจำหน่าย และเป็นการสร้างแบรนด์สู่กลุ่มลูกค้าในประเทศมากขึ้น

“กัญจน์พร” กล่าวต่อว่า พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การนำเสนอแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพ รวมถึงการมุ่งสร้างแบรนด์สปา “บ้านนาทอง เฮลท์ตี้ แอนด์ สปา” สู่ลูกค้าทั่วโลก

‘บ้านนาทอง’ จากสิ่งพิมพ์ สู่ธุรกิจสปาครบวงจร