posttoday

เอกชนเชื่อมั่นลงทุนไทย ไม่สนรัฐบาลเลื่อนเลือกตั้ง

21 มกราคม 2561

เอกชนไม่สนรัฐบาลเลื่อนเลือกตั้งออกไปในปี 2562 เดินหน้าทำธุรกิจตามแผนที่วางไว้เดิม ยันกลุ่มต่างชาติมีความเชื่อมั่นลงทุนในไทย

เอกชนไม่สนรัฐบาลเลื่อนเลือกตั้งออกไปในปี 2562 เดินหน้าทำธุรกิจตามแผนที่วางไว้เดิม ยันกลุ่มต่างชาติมีความเชื่อมั่นลงทุนในไทย

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แม้จะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจากกำหนดเดิมในระยะอีก 3-6 เดือน จะไม่กระทบต่อการลงทุนของภาคเอกชนอย่างแน่นอน เพราะเข้าใจกระบวนการออกกฎหมายว่าต้องพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบ

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ภาคเอกชนมองว่าจะส่งผลต่อการลงทุนโดยตรงคือ กฎหมายเกี่ยวกับการลงทุน เช่น ร่าง พ.ร.บ.พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ... และการขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวกการประกอบธุรกิจ

“ถ้ามีการเลื่อนเลือกตั้งทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจได้ เพราะกฎหมายต้องใช้เวลา ส่วนนักลงทุนชาวต่างชาตินั้นก็ตอบยากว่าเขาจะมีมุมมองอย่างไร แต่เชื่อว่าทุกบริษัทมีแผนการลงทุนอยู่แล้ว และก็ใช้ปัจจัยหลายอย่างประกอบการตัดสินใจ คงไม่ใช่แค่เรื่องเดียว” นายเจน กล่าว

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเลื่อนการเลือกตั้งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของภาคเอกชน เพราะขณะนี้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การดำเนินงานของแต่ละกระทรวงก็สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะนักลงทุนจากญี่ปุ่น จีน สหรัฐ และยุโรป ที่จะมีการหารือความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในระดับประเทศกับรัฐบาลไทย

น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ยอมรับว่าปัจจัยการเมืองและการเลือกตั้งเป็นความเสี่ยงหนึ่งสำหรับการประกอบกิจการ จึงต้องการความชัดเจนในเรื่องนี้ ฉะนั้นหากรัฐบาลจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก ก็จะต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าจะเลื่อนออกไปเมื่อใด แต่บริษัทก็ยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผนที่วางไว้

ด้าน นายทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปแช่แข็ง กล่าวว่า การเลื่อนการเลือกตั้งออกไปไม่ใช่ปัญหาของบริษัท และไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นจึงยังใช้งบลงทุนเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา โดยปีนี้ทางบริษัทมีแผนจะใช้งบลงทุนหลัก 100 ล้านบาท สำหรับการปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อใช้เป็นแรงผลักดันสำคัญในการทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไป

นายธนวัฒน์ คุ้มสิน นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กล่าวว่า หากมีเหตุผลสนับสนุนในการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจากเดิมมากเพียงพอ และบรรยากาศทางการเมืองยังมีความสงบเรียบร้อย ย่อมไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะประเด็นสำคัญอยู่ที่ความสงบทางการเมือง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญที่เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

ขณะที่นายชลิต ลิมปนะเวช อุปนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปี 2561 อาจจะมีการขยายตัวไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ภาครัฐได้คาดการณ์ไว้หรือหวังจะให้อัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ4-4.2%

ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว โดยเห็นได้จากยอดขายของกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และห้างร้านต่างๆ ที่ภาพรวมของยอดขายยังไม่เติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

“เท่าที่ดูสถานการณ์กำลังซื้อของผู้บริโภคในตอนนี้ยังไม่กระเตื้อง โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร เนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรยังคงตกต่ำ หากภาครัฐไม่เร่งแก้ปัญหาภาคการเกษตร สิ่งที่คาดการณ์ไว้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะโตได้มากกว่า 4% น่าจะเป็นไปได้ยาก”นายชลิต กล่าว

ภาพประกอบข่าวจากแฟ้มภาพ