สวนสยามอัดงบ60ล้านบาทตั้งเป้าดึงคนเที่ยวโต10-20%

สวนสยามทุ่มงบ 60 ล้าน ทำแผนตลาดจัดแคมเปญปี 2561 หวังดันผู้ใช้บริการโต 10-20% แตะ 1.2-1.5 ล้านคน ตั้งเป้ารายได้เพิ่ม 10%

นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามพาร์ค บางกอก ผู้บริหารสวนน้ำและสวนสนุก "สวนสยาม" เปิดเผยว่า ในปี 2561 ได้วางงบประมาณ 60 ล้านบาท จัดทำแคมเปญการตลาด เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้บริการทั้งในเขต กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตั้งเป้ามี รายได้เติบโต 10% ซึ่งยอมรับว่าเป็น เรี่องที่ท้าทาย มียอดผู้ใช้บริการในปีนี้เติบโต 10-20% จากปีก่อนเฉลี่ยที่ 1.2-1.5 ล้านคน

ปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อธุรกิจของ บริษัทในปีนี้ มาจากเศรษฐกิจระดับรากหญ้าที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น จากนโยบายภาครัฐที่มุ่งสนับสนุนช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย รวมถึงอานิสงส์จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ ในการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวให้สะดวกมากยิ่งขึ้น

"งบการทำตลาดจะพิจารณาปรับเปลี่ยนตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป โดยผู้ประกอบการยังมีความต้องการให้ ภาครัฐสนับสนุนเชิงนโยบายในการเพิ่มเมืองใหญ่ หรือเมืองท่องเที่ยวหลัก ในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวยังไม่กระจายตัวออกไป" นายวุฒิชัย กล่าว

สำหรับแผนธุรกิจที่สำคัญใน ปีนี้จะทำการตลาดจัดโปรโมชั่นและประชาสัมพันธ์ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัด เพื่อจัดแคมเปญดึงดูดผู้ใช้ บริการ โดยเฉพาะในจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ใช้ระยะเวลาเดินทางเพียง 2-3 ชั่วโมง สามารถเดินทางมา ท่องเที่ยวแบบไม่ค้างคืนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ จะเปิดตลาดใหม่โดยเจาะฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่นมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดเลี้ยงวันเกิด งานแต่งงาน งานเกษียณ งานปาร์ตี้กลางคืน ซึ่งจะเน้นการใช้สื่อออนไลน์ และช่องทางดิจิทัลเพื่อสร้างการรับรู้มากขึ้น

ขณะที่กลุ่มลูกค้าของสวนสยาม ส่วนใหญ่ 70% เป็นกลุ่มคนไทย นักเรียน นักศึกษา อีก 30% จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นประเทศเพื่อนบ้านซีแอลเอ็มวี อาเซียน ไต้หวัน จีน และตะวันออกกลาง

ด้านภาพรวมการแข่งขันในธุรกิจสวนน้ำ ขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการ รายใหม่เข้ามาทำตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการรายเดิมที่มีกิจการสวนน้ำในพื้นที่ที่มีระยะทางห่างออกไป มีเพียงบางพื้นที่ เช่น พัทยา ที่มีระยะทางที่ใกล้กัน แต่ทั้งนี้มองว่าการแข่งขันธุรกิจสวนน้ำจะไม่รุนแรงมากนัก

นายวุฒิชัย กล่าวยอมรับว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอาจมีผลกระทบต่อการทำธุรกิจ จากการที่ต้นทุนของ ผู้ประกอบการปรับตัวสูงขึ้น แต่ทั้งนี้ส่วนหนึ่งจะก่อให้เกิดรายได้กับผู้บริโภคและลูกค้าผู้ใช้บริการ