มิชลินไกด์ร่ายมนต์ เรียกลูกค้าพุ่งเท่าตัว

มิชลินกรุ๊ป ชี้มิชลินไกด์ช่วยร้านอาหารขายเพิ่ม 50-100% ท่องเที่ยวและเกษตรกรได้อานิสงส์ แย้มโครงการใหม่ไปกว่างโจว

น.ส.แคลร์ ดอร์แลนด์ คลอเซล รองประธานมิชลินกรุ๊ป ฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน แบรนด์ และความสัมพันธ์องค์กร เปิดเผยว่า ธุรกิจร้านอาหารที่ถูกคัดเลือกจัดอันดับดาวมิชลิน และได้ตีพิมพ์ในคู่มือ มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ จะช่วยให้ร้านอาหารต่างๆ มียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 50-100% จากการที่นักท่องเที่ยว นักชิม จากทั่วโลกได้ติดตามและสนใจจองเพื่อตามแสวงหาชิมอาหาร

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมท่องเที่ยว การจ้างงาน แหล่งวัตถุดิบจากเกษตรกรที่ป้อนเข้าสู่การผลิตอาหารของร้านอาหาร จะได้รับอานิสงส์จากการเติบโตดังกล่าว

สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียน ที่ตีพิมพ์ในคู่มือมิชลิน ไกด์ ถัดจากสิงคโปร์ ซึ่งยอมรับว่า ไทยมีจุดเด่นด้านการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อีกทั้งคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจแวดวงอาหาร การรับประทานอาหารนอกบ้าน สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกที่วงการอาหารเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกันมองว่า ทุกๆ ประเทศในอาเซียนที่มีความพร้อมก็มีโอกาสที่จะได้รับการคัดเลือกให้จัดอันดับและตีพิมพ์ในคู่มือ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่คาดว่าจะมีโอกาสได้รับการคัดเลือกภายใน 5-10 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ ร้านอาหารในไทยที่ได้รับดาวมิชลินมีจำนวน 17 ร้าน แบ่งเป็น ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน จำนวน 3 ร้าน ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลิน จำนวน 14 ร้าน ซึ่งถือว่าร้านอาหารไทยที่ได้รับดาวมิชลินมีจำนวนสูง 17% หากเทียบกับร้านอาหารในฝรั่งเศสที่ได้รับดาวมิชลินอยู่ที่ 13% ของร้านอาหารที่ตีพิมพ์ ขณะที่ร้านอาหาร 3 ดาวมิชลินของฝรั่งเศสมีเพียง 27 ร้านเท่านั้น

ขณะที่ร้านอาหารริมทาง หรือสตรีทฟู้ดของไทยที่ได้รับ 1 ดาวมิชลิน และมี 28 ร้านที่ได้ลงตีพิมพ์ในเล่ม สะท้อนถึงสัญญาณการเริ่มต้นที่ดีของการพัฒนาคุณภาพ และชี้ชัดว่ามิชลินมุ่งเน้นไปที่คุณภาพของอาหารมากกว่าสิ่งแวดล้อมรอบข้าง พร้อมกันนี้อยู่ระหว่างหารือกับทาง กทม.ในการจดทะเบียนร้านอาหารริมทางเพื่อให้ทราบถึงสถานที่ขายอย่างชัดเจน เพื่อให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน มิชลิน ไกด์ได้คัดสรรร้านอาหารที่ดีครอบคลุมกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยปี 2560 เปิดตัวคู่มือมิชลินไกด์ 4 แห่ง ได้แก่ สิงคโปร์ วอชิงตัน ดี.ซี. โซล และเซี่ยงไฮ้ ล่าสุดเปิดโครงการคัดเลือกร้านอาหารในเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ซึ่งจากนี้จะต้องใช้เวลาคัดเลือกร้านอาหาร 12-15 เดือน