posttoday

อิชิตันจ่อปรับสูตรลดหวานรับสรรพสามิต

21 พฤศจิกายน 2560

อิชิตันจ่อลดน้ำตาลในเครื่องดื่มไตรมาส 4 รับภาษีความหวาน ยันกระทบน้อย ขึ้นราคาและส่งออกได้

อิชิตันจ่อลดน้ำตาลในเครื่องดื่มไตรมาส 4 รับภาษีความหวาน ยันกระทบน้อย ขึ้นราคาและส่งออกได้

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) เปิดเผยว่า ไตรมาส 4 ปีนี้บริษัทจะปรับสินค้าสูตรที่มีน้ำตาลลดลงในทุกรสชาติ โดยกำหนดวางจำหน่ายต้นปีหน้า ส่วนหนึ่งเพื่อ ปรับตัวรับภาษีความหวานของกรมสรรพสามิต ซึ่งเริ่มบังคับใช้ในช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ผลการจัดเก็บภาษีจะกระทบต้นทุนเพิ่มประมาณ 6-10 สตางค์/ขวด ไม่มากเนื่องจากสามารถปรับราคาขายขึ้นได้

ทั้งนี้ เมื่อบวกกับบริษัทได้ ส่งออกสินค้าไปขายในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (ซีแอลเอ็มวี) ซึ่งไม่เสียภาษีได้มากขึ้น ทำให้ผลกระทบจากภาษีและการคิดภาษีจากหน้าโรงงานมาที่ราคาขายปลีกมีสัดส่วนเพียง 40% ของสินค้าทั้งหมด ส่วนอีก 60% เป็นสินค้าเครื่องดื่มสมุนไพรน้ำตาลต่ำ

นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดิน ตามแผนการตลาดทั้งในและ ต่างประเทศต่อเนื่อง เพื่อตอบรับ แนวโน้มการบริโภคเพื่อสุขภาพ เพื่อดันสินค้ากลุ่มไม่มีน้ำตาลให้เป็น ที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอิชิตัน ชิวชิว ชารสผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวยังเติบโตสูง ส่วนแบรนด์เย็นเย็น ยังเป็นหัวหอกในการเจาะกลุ่ม เครื่องดื่มสมุนไพร และ T247 เครื่องดื่มชูกำลังก็ได้รับการตอบรับดี ขึ้น ทำให้บริษัทมีพอร์ตสินค้าหลากหลายขึ้น นอกจากนี้บริษัทจะพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มสำหรับวัยรุ่นในปี หน้าด้วย

สำหรับการส่งออกไปต่างประเทศในปีหน้า บริษัทได้จับมือกับบริษัท ดาร์กอนวินวิน ซึ่งเป็นบริษัทเทรดดิ้ง รายใหญ่ 1 ใน 3 ของเมียนมาเพื่อรุกตลาดในเมียนมามากขึ้น นอกจากนี้ยังจะเริ่มส่งออกไปตลาดจีนด้วย แต่สินค้าที่ส่งไปขายจะไม่ใช้ชาเขียวเพราะที่จีนถูกกว่า และการส่งออกที่ดีขึ้นก็ช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ใน ต่างประเทศเพิ่มขึ้น จาก 9 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 22% เพิ่มเป็น 25% ปีหน้า

"ภาษีความหวานที่จะถูกเก็บ แม้ทุกตัวจะมีความหวานแต่หวานน้อย ไม่ได้ถูกเก็บภาษีทั้งหมด เพราะน้ำตาล 0-6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร หรือ 1 ขวดไม่เกิน 18 กรัม ก็ไม่เสีย แต่จะปรับความหวานลดลงเพื่อรับ เทรนด์สุขภาพที่ภาครัฐอยากให้บริษัทผู้ผลิตมีการพัฒนาใช้น้ำตาลลดลง อันนี้ถือเป็นความท้าทายของ ผู้ประกอบการทุกราย" นายตัน กล่าว

นายตัน กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 5,800 ล้านบาท จาก 9 เดือนแรกทำได้ 4,407 ล้านบาทแล้ว คาดว่าไตรมาส 4 ผลการดำเนินงานจะดีขึ้น ตามกำลังซื้อและทิศทางเศรษฐกิจ และปีหน้าบริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 6,800-7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ในประเทศ 75% และ ต่างประเทศ 25% ซึ่งข้อดี คือ รายได้ส่งออกไม่มีค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเพิ่มอีก เพราะราคาขายได้บวกงบการตลาดไว้แล้ว