ปตท.ทำกำไรทะลุแสนล้าน ราคาน้ำมันพุ่งหนุน

ปตท.ปีนี้กำไรทะลุแสนล้าน หลังราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปรับขึ้นต่อเนื่อง คาดงบลงทุน 5 ปี มากกว่า 3 แสนล้าน

นายพิจินต์ อภิวันทนาพร ผู้จัดการฝ่ายลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลดำเนินงานปี 2560 กำไรสุทธิอาจจะทะลุ 1 แสนล้านบาท หลังจากงวด 9 เดือน บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 9.98 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ มองว่าไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทจะมีกำไรจากสต๊อกราคาน้ำมันมากกว่าไตรมาส 3 เพราะราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น ปัจจุบันอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดย 9 เดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 51.1 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกทั้งไตรมาส 4 นี้จะไม่มีการตั้งสำรองด้อยค่าทรัพย์สินของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เหมือนไตรมาส 3

อย่างไรก็ตาม มองว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 51-52 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดว่าปีหน้าราคาน้ำมันดิบปีหน้าจะอยู่ที่ 52-57 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำหรับปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างทำแผนธุรกิจ 5 ปี (2561-2565) คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ธ.ค.นี้ เบื้องต้นคาดว่างบลงทุน 5 ปี จะสูงกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 3 แสนล้านบาท เนื่องจากมองว่าบริษัทมีโอกาสที่จะลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และการลงทุนในธุรกิจใหม่ เพื่อที่จะสร้าง S Curve ใหม่ เช่น ธุรกิจดิจิทัลอินโนเวชั่น

นายพิจินต์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนไปโรดโชว์ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในสัปดาห์หน้าที่ออสเตรเลียและสิงคโปร์ เพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุน

"วันที่ 19 พ.ย.นี้จะเดินทางไปโรดโชว์ออสเตรเลีย ร่วมกับ ตลท.ซึ่งมีไทยออยล์ (TOP) ไปให้ข้อมูลด้วย หลังจากเสร็จแล้วไปโรดโชว์ต่อที่สิงคโปร์ ซึ่งจะมี ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เข้ามาร่วมโรดโชว์ด้วย" นายพิจินต์ กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2560 ปตท.ได้จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ที่ ปตท.ถืออยู่ทั้งหมด 234.56 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.41% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SPRC รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,706 .08 ล้านบาท ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งรายการดังกล่าวไม่ใช่รายการเกี่ยวโยง แต่เป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของ ปตท. ซึ่งมีมูลค่ารายการไม่เข้าข่ายต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการตลาดทุน

นายวิชัย ชุณหสมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและการคลังสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง ได้แจ้ง ตลท.ว่า ปตท.ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ 5.41% ออกทั้งหมด และยืนยันเรื่องความสัมพันธ์ทางการค้าทั้งหมด สำหรับการรับซื้อผลิตภัณฑ์และจัดหาวัตถุดิบยังคงมีอยู่เหมือนเดิม และบริษัทคาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด