posttoday

เซ็นทรัลเดินหน้าลุย ปรับกลยุทธ์-ขยายลงทุนเวียดนาม

19 สิงหาคม 2560

เซ็นทรัลลงทุนเวียดนาม 5ปี 1.75 หมื่นล้าน เน้นขายแบรนด์ท้องถิ่น

โดย...จะเรียม สำรวจ

ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ได้เข้าไปทำธุรกิจในประเทศเวียดนาม ส่งผลให้กลุ่มเซ็นทรัลได้ทราบถึงความต้องการของผู้บริโภคในประเทศเวียดนามมากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมของคนเวียดนามส่วนใหญ่ค่อนข้างมีความแตกต่างจากคนไทยพอสมควร เห็นได้จากพฤติกรรมการซื้อสินค้าของคนเวียดนามที่ส่วนใหญ่ยังคงเน้นไปที่แบรนด์สินค้าภายในประเทศ ส่วนสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง และสินค้านำเข้ายังคงได้รับความนิยมค่อนข้างน้อย

เหตุผลดังกล่าวทำให้กลุ่มเซ็นทรัลต้องหันมาปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามใหม่ ด้วยการหันมาให้ความสำคัญกับการนำสินค้าภายในประเทศเวียดนามเข้ามาทำตลาดในห้างค้าปลีกในเครือมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในประเทศเวียดนาม

ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า การซื้อสินค้าแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศของผู้บริโภคในเวียดนามคงต้องใช้ระยะเวลาอีกพักหนึ่ง จึงจะมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าเหมือนกับคนไทย และจากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทต้องหันมาปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ ด้วยการเข้าไปศึกษาพฤติกรรมของ ผู้บริโภคในเชิงลึกมากขึ้น ปีนี้ถือเป็นปีที่บริษัทมีการจัดระเบียบการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามอย่างจริงจัง เริ่มจากการนำสินค้าโลคอลหรือสินค้าภายในประเทศเข้ามาจำหน่ายในห้างค้าปลีกของบริษัทมากขึ้น

ขณะเดียวกัน กลุ่มเซ็นทรัล ยัง ได้มีการดึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจค้าปลีกเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจค้าปลีก ในเวียดนาม เพื่อให้ธุรกิจค้าปลีกในประเทศเวียดนามมีการขยายตัวตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ว่า ในแต่ละปีธุรกิจน่าจะต้องมีการเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20-30% แต่ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 10% เท่านั้น เช่นเดียวกับสิ้นปี 2560 นี้คาดว่าธุรกิจในเวียดนามน่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10%

สำหรับแผนการลงทุนธุรกิจในเวียดนามปีนี้ กลุ่มเซ็นทรัล ใช้งบลงทุนไปประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากเป็นปีที่เน้นการจัดระเบียบโครงสร้างการทำงาน ซึ่งธุรกิจที่เน้นการลงทุนในปีนี้ คือ อาหารและเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะเป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวมากที่สุด

ทศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของปี 2561 บริษัทมีแผนที่จะใช้งบลงทุนในประเทศเวียดนามประมาณ 7,000 ล้านบาท และยังคงเน้นการขยายธุรกิจในกลุ่มอาหารเป็นหลัก จากปัจจุบันมีธุรกิจ ที่ทำอยู่ในเวียดนามประมาณ 6 กลุ่ม คือ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์การค้าดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า แฟชั่น และส่งออก โดยในส่วนของงบลงทุนดังกล่าวไม่นับรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเช่น โรงแรม ที่จะนำเข้าไปลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งแบรนด์โรงแรมที่จะนำเข้าไป คือ เซ็นทารา

ทั้งนี้ แม้ว่าการลงทุนในประเทศเวียดนามขณะนี้จะยังมีปัญหาให้ต้องปรับปรุง แต่เวียดนามก็ยังคงเป็นประเทศหลักที่กลุ่มเซ็นทรัล จะเข้าไปลงทุนควบคู่กับการลงทุนในภูมิภาคยุโรป เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพและธุรกิจสามารถขยายตัวได้อีกมาก เพราะเวียดนามมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี ส่วนประเทศไหนจะเป็นลำดับต่อไปที่จะเข้าไปลงทุนนั้น ทศ กล่าวว่า คงต้องใช้ระยะเวลาอีก 4-5 ปี จึงจะเริ่มเข้าไปขยายการลงทุนในประเทศใหม่ๆ

ด้าน ฟิลิปส์ โบรยานิโก ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเซ็นทรัล เวียดนาม กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามอีก 5 ปีนับจากนี้ (2560-2564) บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนขยายธุรกิจไม่ต่ำกว่า 1.75 หมื่นล้านบาท ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่จะเน้นเป็นพิเศษ คือ อาหาร เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตดี นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะลงทุนช็อปปิ้งมอลล์เพื่อต่อยอดธุรกิจ ส่วนรายละเอียดที่แน่ชัดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้

หลังจากออกมาประกาศแผนลงทุนก้อนใหญ่ เชื่อว่าธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลในประเทศเวียดนามน่าจะขยับมาเติบโตต่อปีตามเป้าหมายที่ 20-30% ได้ ไม่ยาก เพราะนอกจากจะขยายธุรกิจเก่าแล้วยังมีแผนลุยธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย