posttoday

ปลุกสินค้าตลาดบน

19 พฤษภาคม 2560

จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ผู้บริโภคทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดยังคงชะลอการจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ไม่จำเป็น

โดย...จะเรียม สำรวจ 

จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ผู้บริโภคทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดยังคงชะลอการจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ไม่จำเป็น ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องปรับเกมรุก ด้วยการหันมาพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้าทำตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้จะไม่ค่อยกังวลกับราคาสินค้าเหมือนกับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อน้อย

บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เล็งเห็นโอกาสทางการตลาด เพราะหลังจากหันมารุกทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มพรีเมียม เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อมากขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มสินค้าพรีเมียมมากถึง 70% และจากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าว ซัมซุงจึงเดินหน้าลุยต่อ ด้วยการเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับพรีเมียมเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการเปิดตัวสมาร์ททีวีรุ่นใหม่ล่าสุดเข้ามาทำตลาดภายใต้ชื่อ QLED TV

วรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัทไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการใช้สินค้าที่มีฟังก์ชั่นพิเศษมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองและมองหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสทางการตลาดพัฒนาทีวีฟังก์ชั่นครบเข้ามาทำตลาด เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดทีวีรวมและตลาดทีวีระดับพรีเมียม ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50%

อย่างไรก็ดี จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันเกี่ยวกับการเลือกซื้อทีวี พบว่า ผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกของผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกันก็เน้นในเรื่องคุณภาพและฟังก์ชั่นที่ครบของสินค้า นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังระบุอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อทีวีพรีเมียมเครื่องใหม่ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน คือ คุณภาพของภาพ หรือคิดเป็นอัตราส่วน 93% ตามด้วยรูปโฉมและการออกแบบ 88% แบรนด์ 86% และฟังก์ชั่นสมาร์ททีวี 79%

วรรณา กล่าวต่อว่า บริษัทในฐานะของผู้นำอันดับ 1 ในตลาดทีวีทั่วโลกและประเทศไทยมากว่า 11 ปี ได้ศึกษาพฤติกรรม ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง พบว่าทีวีในปัจจุบันมีหลายจุดที่ยังไม่สามารถตอบความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ดังนั้นบริษัทจึงได้มีการคิดค้นนวัตกรรมทีวีล่าสุดที่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ และปิดจุดอ่อนของทีวีได้ตรงจุดผ่าน “Samsung QLED TV”

สำหรับจุดเด่นของ“Samsung QLED TV” นั้น จะมีด้วยกัน 3 ด้าน ได้แก่ 1.Q Style ด้วยดีไซน์สวยงาม 360 องศา แบบไม่มีสายไฟ 2.Q Smart ศูนย์รวมความบันเทิงภายในบ้านด้วยคอนเทนต์หลากหลาย เช่น TV Plus คอนเทนต์บันเทิงทั้งวาไรตี้ มิวสิควิดีโอ เกมโชว์ ภาพยนตร์ และละคร ที่สามารถควบคุมทุกอุปกรณ์ด้วยรีโมทเดียว One Remote Control และเชื่อมต่อสมาร์ทดีไวซ์กับทีวีได้ง่าย 3.Q Picture เทคโนโลยีการแสดงผลภาพที่ชัดเจนสมจริง ซึ่งหลังจากเปิดตัวทีวีรุ่นดังกล่าวเข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ซัมซุงมั่นใจว่าจะสามารถช่วยผลักดันให้ยอดขายทีวีเติบโตจากปกติได้ไม่ต่ำกว่า 2 เท่าตัว และเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มาจากยอดขายกลุ่มสินค้าพรีเมียมขึ้นมาเป็น 80% ในสิ้นปีนี้ได้อย่างแน่นอน

ขณะที่ซัมซุงออกมาเปิดตัวทีวีพรีเมียมรุ่นใหม่เข้าทำตลาด ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่นอย่างโตชิบา ก็ออกมาเปิดเกมรุก ด้วยการเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับพรีเมียมรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพื่อผลักดันให้สิ้นปีมีรายได้เติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้

มาซาอากิ คิมูระ ประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดกลุ่มสินค้าระดับพรีเมียมมากขึ้น เนื่องจากสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและช่วยให้บริษัทมียอดขายที่ดีขึ้น ซึ่งล่าสุดบริษัทก็ได้มีการเปิดตัวกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น 2 ประตู เครื่องซักผ้า หรือตู้แช่

ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มสินค้าเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ที่ได้เปิดตัวเข้าทำตลาดในครั้งนี้จะมีด้วยกัน 2 ซีรี่ส์ คือ DG Series และ DUG Series ซึ่งทั้งสองรุ่นจะมีความโดดเด่นในด้านของรูปโฉมใหม่ทรงโค้งมน หรูหราทันสมัย ส่วนตู้เย็นจะมี 1 ซีรี่ส์ 1 สี คือ MG Series โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหรา หน้าบานเป็นกระจก ขณะที่ตู้แช่ จะมีจุดเด่นในด้านของการให้ความเย็นเหมือนตู้เย็น ดีไซน์ทันสมัย

นอกจากจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ในปีนี้บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ ยังได้รับหน้าที่ให้ขยายตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้าไปทดลองทำตลาดในประเทศลาวมาบ้างแล้ว และล่าสุดกำลังจะขยายตลาดไปยังประเทศกัมพูชาและเมียนมา ด้วยการส่งตู้เย็น 2 ประตู เครื่องซักผ้า และตู้แช่รุ่นใหม่เข้าไปทำตลาด

หลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โตชิบามั่นใจว่าจะมียอดขายสิ้นปีเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3-5% เท่ากับภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งสิ้นปีนี้คาดการณ์ว่าจะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 3-5% เช่นกัน เนื่องจากผู้ประกอบการหันมาลดความเสี่ยง ด้วยการหันมาทำตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับบนมากขึ้น