อีเวนต์ไตรมาส2-3คึก

โดย...จะเรียม สำรวจ

เริ่มฟื้นแล้วสำหรับธุรกิจรับจัดกิจกรรมหรืออีเวนต์ หลังจากเจ้าของสินค้าและบริการ เริ่มออกมาทยอยเปิดตัวสินค้าบริการใหม่เข้าทำตลาด รวบคู่ไปกับทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ไตรมาส 2 เริ่มกลับมาคึกคักและคาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3

เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2560 ที่ผ่านมา ธุรกิจอีเวนต์กลับมาคึกคักมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเลื่อนการจัดงานจากปลายปี 2559 ประกอบกับสภาพจิตใจของประชาชนคนไทยดีขึ้น ส่งผลให้ช่วงไตรมาส 2 ต่อเนื่องไตรมาส 3 ของปีนี้มีการจ่อคิวจัดงานอีเวนต์อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มอีเวนต์ประเภทเอนเตอร์เทนเมนต์หรือบันเทิง เช่น คอนเสิร์ต งานแสดง และละครเวที

นอกจากนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ นักการตลาดก็เริ่มกลับมาใช้เม็ดเงินในการกระตุ้นยอดขายในรูปแบบของแคมเปญ การจัดโปรโมชั่น และการเปิดตัวสินค้าแบรนด์ขึ้นใหม่เข้ามาทำตลาดกันมากขึ้น โดยลักษณะของอีเวนต์ที่เกิดขึ้นจะถูกแบ่งด้วยกลุ่มเป้าหมายที่มีความชัดเจน

ขณะเดียวกัน ก็จะหาสิ่งใหม่ๆ ที่สามารถสร้างประสบการณ์ร่วมให้กับผู้บริโภคได้เสมือนจริงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการใช้เรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาช่วยส่งเสริมการขาย และส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์เอง

เกรียงไกร กล่าวอีกว่า สิ่งที่ท้าทายของนักการตลาดในยุคนี้ คือ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ สร้างความโดดเด่น และแตกต่าง เพราะในแต่ละวัน แต่ละวินาที มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากการให้น้ำหนักเรื่องของการจัดอีเวนต์แล้ว การเชื่อมโยงแพลตฟอร์มระหว่างออนกราวด์ สู่ออนไลน์ จึงเป็นบทบาทสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ ส่วนช่วงไตรมาส 4 คงต้องดูกันอีกทีว่า ทางรัฐบาลจะมีการประกาศอย่างไร เพื่อที่จะได้เตรียมตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ด้าน เสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ กล่าวว่า แนวโน้มอีเวนต์ในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์เริ่มกลับมาคึกคัก ส่วนหนึ่งเกิดจากการอั้นงบมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มสินค้าที่ออกมาใช้งบจัดงานอีเวนต์อย่างเห็นได้ชัด คือ รถยนต์ สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์

สำหรับภาพรวมไตรมาส 4 ในปีนี้ เชื่อว่าจะไม่ชะลอตัวเหมือนกับปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน แม้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพราะเชื่อว่าเจ้าของสินค้าน่าจะปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากมีเวลาเตรียมตัวและวางแผนการตลาดมากกว่าไตรมาส 4 ปี 2559 ที่เกิดเหตุการณ์กระทันหันทำให้วางแผนการตลาดไม่ทัน

จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ในสิ้นปีนี้น่าจะกลับมาเติบโตเป็นบวก หรือมีมูลค่ากลับมาอยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาทได้อย่างแน่นอน หลังจากเมื่อปี 2559 ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์อยู่ในภาวะชะลอตัวถึงขั้นติดลบ เพราะปลายปีที่ไม่สามารถจัดงานอีเวนต์ได้