posttoday

"บิ๊กตู่"ขอทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อนภาคตะวันออก

06 กุมภาพันธ์ 2561

นายกฯ ประชุม อีอีซี ร่วมภาคเอกชน ผู้ว่าฯ ผู้นำท้องถิ่น ขอทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อนภาคตะวันออก

นายกฯ ประชุม อีอีซี ร่วมภาคเอกชน ผู้ว่าฯ ผู้นำท้องถิ่น  ขอทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อนภาคตะวันออก

ช่วงค่ำวันที่ 5 กพ. 61 ที่โรงแรมมณีจันท์ รีสอร์ท ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC)  ร่วมกับภาคเอกชน ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคตะวันออก เพื่อพิจารณาแนวทางการพัฒนาภาคตะวันออกซึ่งเป็นฐานเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC)  ทุกคนทราบดีว่าอะไรคืออุปสรรคปัญหาและศักยภาพของตนเอง ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะขับเคลื่อนทุกอย่างไปให้ได้ แต่การจะขับเคลื่อนทุกอย่างโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลฝ่ายเดียวคงไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ จึงขอให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาสังคม เอ็นจีโอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันขับเคลื่อนภาคตะวันออกไปสู่วิสัยทัศ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”

ทั้งนี้ ความยั่งยืนนั้นต้องไม่ดำเนินการอย่างฉาบฉวย แต่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์โดยรวม ซึ่งประเทศไทยมี 76 จังหวัด และรวมพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพราะฉะนั้นการที่จะอนุมัติงบประมาณโครงการใดให้พิจารณาดำเนินการตามความพร้อม  และให้พยายามแก้ไขในสิ่งที่เป็นข้อพกพร่อง ขณะเดียวกันรัฐบาลก็จะพยายามปลดล็อกเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นปัญหา เช่น เรื่องของกฎหมาย และจะไม่ดำเนินการในเชิงที่สร้างคะแนนนิยมที่ผิดต่อไปอีก เพราะจะเป็นปัญหาของประเทศในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องงบประมาณ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วนของจังหวัดจันทบุรีที่ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะอย่างอบอุ่น ซึ่งจากการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนทำให้ได้รับรู้และเห็นถึงความหวังของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานภาครัฐและรัฐบาลในการที่จะทำให้ประชาชนได้มีอนาคตที่ดีในวันข้างหน้าต่อไป

ที่ประชุม ได้มีการพิจารณาการขอรับการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ดังนี้

ส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน ขอรับการสนับสนุนใน 2 ส่วน ดังนี้ โครงข่ายถนน  1) การศึกษาออกแบบก่อสร้างถนน จำนวน 5 เส้นทาง ได้แก่ (1) เส้นทางเฉลิมบูรพาชลทิศ (อู่ตะเภา-ชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี) เพื่อการท่องเที่ยว (2) เส้นทางเลียบชายทะเลจังหวัดชลบุรี ส่วนต่อขยาย (เชื่อมต่อบูรพาวิถี-บางทราย) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร และส่งเสริมการท่องเที่ยว (3) เส้นทางสาย ค1 ผังเมืองรวมเมืองบ้านบึง เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร (4) เส้นทางเชื่อมขุนด่านปราการชล ช่วงแยกศรีนาวา-หินตั้ง จังหวัดนครนายก เพื่อการท่องเที่ยว และ (5) เส้นทางตัดใหม่จากแยก 3259-จุดผ่อนปรนบ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว   

ขอรับการสนับสนุนการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เส้นทางโดยการเพิ่มช่องทางจราจรรองรับการพัฒนา จำนวน 6 เส้นทาง ดังนี้ (1) เส้นทางเขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง จังหวัดจันทบุรี เพื่อสนับสนุนการขนส่งและการท่องเที่ยวเขาคิชกูฏ (2) เส้นทางบ้านป่าวิไล-ด่านชายแดนบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี เพื่อรองรับการค้าชายแดน (3) เส้นทางนครนายก-บางหอย-บ้านสร้าง-พนมสารคาม เพื่อสนับสนุนการขนส่ง

(4) เส้นทางคลองหลวงแพ่ง-ปราจีนบุรี เชื่อมจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดปราจีนบุรีเพื่อสนับสนุนการขนส่งและอุตนหากรรม (5) เส้นทางปราจีนบุรี-ศรีมหาโพธิ เพื่อสนับสนุนการขนส่งและอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี และ (6) เส้นทางบางบุตร-ชุมแสง จังหวัดระยอง เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงจังหวัดระยองกับพื้นที่ EEci ในอำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง

ด้านระบบขนส่งสาธารณะ  ขอให้มีการศึกษาออกแบบรถไฟทางคู่สายระยอง-จันทบุรี-ตราด เพื่อเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง เพิ่มเส้นทางรถไฟโดยสารด่วนพิเศษ (sprinter) สายกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนระหว่างกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรีและสระแก้ว  และให้มีการศึกษาเพื่อจัดทำแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนเพื่อเชื่อมโยงสถานีรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง กับแหล่งท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และแหล่งชุมชน ในพื้นที่เมืองพัทยา ศรีราชา และแหลมฉบัง

ส่วนน้ำอุปโภคบริโภค ขอให้การประปาส่วนภูมิภาคขยายการให้บริการน้ำประปาโดยนำน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล มาผลิตเป็นน้ำประปาไฟฟ้า  ขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บรรจุแผนปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงสูงที่มั่นคง ทนภาระทางไฟฟ้าที่หนัก

ด้านอุตสาหกรรม การค้า การลงทุน และการค้าชายแดน  ขอให้มีการยกระดับด่านชายแดนท่าเส้น อำเภอเมืองตราด เป็นจุดผ่านแดนถาวร   รวมทั้งขอให้พัฒนาจังหวัดจันทบุรี เป็นนครอัญมณีศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก   และขอให้มีการเร่งรัดการบริหารท่าเทียบเรือแหลมฉบังฝั่งบี

ด้านการเกษตร ขอให้มีการพัฒนาผลไม้คุณภาพปลอดภัยอย่างครบวงจร ทั้งต้นทาง กลางทางและปลายทาง

ด้านการท่องเที่ยว  ขอรับการสนับสนุนและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภายใต้โมเดลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์   การออกแบบ ปรับปรุงและพัฒนาเส้นทางจักรยานเพื่อท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เชิงนิเวศและเชิงชุมชน ในพื้นที่ท่องเที่ยวของชลบุรี จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว   รวมถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 2 แห่ง คือ เมืองโบราณดงละคร  และหมู่บ้านไทยพวน จังหวัดนครนายก   การพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองรองด้วยกิจกรรม MICE   และขอสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการท่องเที่ยว และโรงแรมภาคตะวันออกเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน

ด้านคุณภาพชีวิต  ขอรับการสนับสนุน ดังนี้  (1) ยกระดับโรงพยาบาลปลวกแดง จังหวัดระยอง จากโรงพยาบาลชุมชนประจำอำเภอ เป็นโรงพยาบาลขนาด 100-120 เตียง เพื่อรองรับแรงงานในนิคมอุตสาหกรรม   (2)  พิจารณาจัดสรรอัตรากำลังบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลมาบตาพุด จังหวัดระยอง   (3) การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านอุบัติเหตุฉุกเฉินและโรคหัวใจ เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกของโรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี และโรงพยาบาลศูนย์ชลบุรี  (4) การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านอุบัติเหตุฉุกเฉินเพื่อรองรับการขยายตัวของ EEC และการท่องเที่ยว ของโรงพยาบาลศูนย์ชลบุรี จังหวัดชลบุรี  (5) การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศ ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดนครนายก  (6) การพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินครบวงจรของ โรงพยายามเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จังหวัดปราจีนบุรี

ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ขอรับการสนับสนุน ดังนี้  (1) ระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียในอำเภอปลวกแดง และเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง   (2)  ขอให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ศึกษาการขุดลอกแม่น้ำบางปะกอง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อแก้ไขปัญหาแม่น้ำตื้นเขิน และศักยภาพการขนส่งพืชผลทางการเกษตรทางน้ำ   (3) ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้มในการป้องกันและแก้ไขปัญหาช้างป่าที่ออกมารบกวน  ประชาชนนอกพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ ของป่ารอยต่อ 5 จังหวัด   และ (4) ขอรับการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม การระบายน้ำ ระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยาอย่างครบวงจร