posttoday

ไทยคว้าอันดับ1ประเทศน่าเริ่มต้นธุรกิจที่สุดในโลก

26 มกราคม 2561

“พาณิชย์” เผยไทยคว้าอันดับ 1 ประเทศที่เหมาะเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก จากการสำรวจของเว็บไซต์ U.S. News

“พาณิชย์” เผยไทยคว้าอันดับ 1 ประเทศที่เหมาะเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก จากการสำรวจของเว็บไซต์ U.S. News

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561 สำนักข่าว U.S.News & World Report ซึ่งเป็นสำนักข่าวที่เผยแพร่ข่าว ความเห็น และผลการจัดอันดับต่างๆที่ได้รับความนิยมและมีอิทธิพลต่อชาวอเมริกัน ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลกด้านต่างๆประจำปี 2561 บนเว็ปไซต์ usnews.com จากผลการสำรวจความเห็นของคนทั่วโลกราว 21,000 คน โดยไทยได้รับการจัดอันดับให้ครองแชมป์อันดับ 1 จากทั้งหมด 80 ประเทศทั่วโลกในเรื่องการเป็นประเทศที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มธุรกิจ (Best Countries to start a Business) ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง

“เหตุผลหลักมาจากการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ลดขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจของไทยและลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการลง นอกจากนี้ ไทยยังได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศที่น่าลงทุน (Best Countries to Invest In) เป็นอันดับที่ 8 จาก 25 ประเทศทั่วโลก”

ทั้งนี้ รายงานผลการจัดอันดับของ U.S. News ดังกล่าวถือเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ยืนยันมุมมองของต่างชาติว่า ประเทศไทยได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการลงทุนตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล ซึ่งภาพลักษณ์ของไทยในเรื่องนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาทำธุรกิจในไทยเป็นอย่างยิ่ง ผลการจัดอันดับนี้สอดคล้องกับผลการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business: EoDB) ของธนาคารโลก ประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2560 ที่จัดไทยอยู่ในอันดับดีขึ้นถึง 20 อันดับจากเดิมอยู่ที่อันดับ 46 ในปี 2560 เป็นอันดับที่ 26 ในปี 2561 สืบเนื่องจากการปรับลดขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจของไทยจากเดิม 5 ขั้นตอน ใช้เวลา 25.5 วัน เหลือเพียง 3 ขั้นตอน ใช้เวลา 2 วัน รวมทั้งการลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการจากเดิม 6,600 บาทเหลือเพียง 5,800 บาท

ปัจจุบัน สหรัฐ เป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทยในโลกและอันดับที่ 1 ของไทยในกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือ โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2561 (ม.ค.–พ.ย.) การค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ มีมูลค่าการค้ารวม 38.12 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 14.60 โดยไทยส่งออกไปสหรัฐ เป็นมูลค่า 24.34 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.15 และนำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 13.79 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.12

นอกจากนี้ ในปี 2560 สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในไทย (FDI) เป็นอันดับที่ 3 รองจากญี่ปุ่นและสิงคโปร์ มีมูลค่าการลงทุน 11,774 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 11.14 สาขาสำคัญที่สหรัฐลงทุนในไทย อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และพลังงาน เป็นต้น