posttoday

"ช. ทวี"คว้าจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี4พันล้าน

07 ธันวาคม 2560

"ช.ทวี"จ่อคว้างานจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 4,020 ล้าน ขสมก.ชงบอร์ดเห็นชอบก่อนลงนามสัญญา ธ.ค.นี้

"ช.ทวี"จ่อคว้างานจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 4,020 ล้าน ขสมก.ชงบอร์ดเห็นชอบก่อนลงนามสัญญา ธ.ค.นี้

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่ ขสมก.เปิดให้เอกชนผู้สนใจมายื่นข้อเสนอโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาทในวันที่ 7 พ.ย. โดยวิธีคัดเลือกนั้น พบว่ามีเอกชนเข้ายื่นข้อเสนอเพียงรายเดียวคือ กลุ่มกิจการร่วมค้า SCN-CHO นำโดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) รายเดียว ที่มายื่นข้อเสนอ (กลุ่มกิจการร่วมค้า SCN-CHO คือ การพาร์ทเนอร์กันระหว่าง บริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ดังนั้นคาดว่าขสมก.จะเร่งเจรจากับเอกชนให้ได้ข้อสรุปก่อนส่งผลประกวดราคาให้พิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ‪ในวันที่ 20 ธ.ค.‬นี้ หากบอร์ดมีมติเห็นชอบจะสามารถลงนามสัญญาภายในเดือน ธ.ค.นี้

สำหรับประเด็นเรื่องนโยบายของ รัฐมนตรีช่วยว่าการคนใหม่ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ที่ต้องการให้ส่งมอบรถทันกับช่วงเปิดเทอมของเด็กนักเรียนในช่วงเดือน มิ.ย.นั้น ยืนยันว่าสามารถทำได้ เนื่องจากสัญญาการส่งมอบรถรอบนี้ระบุว่า เปิดกว้างให้เอกชนส่งมอบรถด้วยวิธีใดก็ได้ แต่ต้องส่งมอบทั้งหมด 489 คันภายใน 150 วัน โดยได้ตัดข้อกำหนดเรื่องการส่งมอบรถเมล์ล็อตแรกก่อนออกไป เนื่องจากเป็นปัญหาที่ทำให้เอกชนเมินยื่นข้อเสนอโครงการในการประมูลรอบที่ผ่านมา

นายกริน ชยวิสุทธิ์ ผู้จัดการโครงการ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้ามายื่นเสนอครั้งนี้มาในนามของ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO โดยมอบให้บริษัท ช ทวีฯ เป็นบริษัทหลักในการดำเนินกิจกรรม แต่ถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันที่ 50:50 อย่างไรก็ตามสาเหตุที่เข้ายื่นข้อเสนอครั้งนี้ เพราะยังเชื่อมั่นใน ขสมก. แม้ว่าราคากลางโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี ที่ ขสมก. กำหนด จะค่อนข้างหนักหนาสาหัส แต่เมื่อเราได้หุ้นส่วนที่มีความแข็งแกร่งทางด้านก๊าซเชื้อเพลิงมาร่วม จะทำให้ช่วยลดความเสี่ยงได้มากขึ้น

แหล่งข่าวจากขสมก.เปิดเผยว่า บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) จะนำเข้ารถโดยสารยี่ห้อ BLK ของบริษัท Jiangxi KAMA Business Bus Co., Limited จากประเทศจีน ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองหนานชาง มาใช้ในโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คันในครั้งนี้ ทั้งนี้สำหรับราคาที่เอกชนเสนอมานั้นพบว่าสูงกว่าราคากลาง 10% หรือราว 4,400 ล้านบาท แต่ทั้งนี้จะไม่เป็นปัญหาในการดำเนินโครงการเพราะเป็นวงเงินที่สามารถต่อรองกันได้