posttoday

ซูเปอร์บอร์ดเห็นชอบร่างพ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจ

17 กรกฎาคม 2560

คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจ พร้อมรับทราบความคืบหน้าการฟื้นฟู 7 รัฐวิสาหกิจ

คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจ พร้อมรับทราบความคืบหน้าการฟื้นฟู 7 รัฐวิสาหกิจ  

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า คนร. ได้รับทราบความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับบดูแลและบริหาร รัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... (ร่าง พ.ร.บ. พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ) ฉบับที่คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ได้ตรวจพิจารณาแล้วเสร็จต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ประเด็นถัดมา  คนร. ได้รับทราบความคืบหน้าการจัดทำแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ ปัจจุบัน สคร. ในฐานะ ฝ่ายเลขานุการ คนร. ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวง เจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจ จัดทำแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจรายสาขา ปี 2560 – 2564 ตามที่ คนร. มอบหมาย และได้จัดส่งให้รัฐวิสาหกิจนำแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจภาพรวมและรายสาขาไปใช้ในการจัดทำแผนการดำเนินงาน ของรัฐวิสาหกิจต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการข้างต้นเป็นการนำหลักการสำคัญของร่าง พ.ร.บ. พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ มาปรับใช้กับการดำเนินงานในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดการพัฒนารัฐวิสาหกิจอย่างเป็นระบบและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ  นอกจากนี้คนร. ได้รับทราบแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้การสรรหากรรมการรัฐวิสาหกิจ  เป็นไปอย่างโปร่งใส สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจและการกำกับกิจการที่ดี

นายเอกนิติ กล่าวว่า  ที่ประชุม คนร. ได้รับทราบ ความคืบหน้าดำเนินการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจทั้ง 7 แห่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่าง ดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรประจำปี 2560  โดยแห่งแรกธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและเป็นไปตามแผนที่กำหนด ซึ่ง คนร. ได้เน้นย้ำให้ให้ ธพว. สร้างความแข็งแกร่ง แก่ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและสนับสนุนการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ได้อย่างต่อเนื่อง โดยให้ธพว. เร่งดำเนินการช่วยเหลือ SMEs ในวงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท ภายใต้มาตรการช่วยเหลือ SME ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ ไว้และเร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตามแผนที่กำหนดให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนกันยายน 2560

แห่งที่ 2 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ได้ดำเนินการโอนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPF) ในส่วน ของลูกค้าที่ไม่ใช่มุสลิมไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (IAM) เมื่อเดือนมิถุนายน 2560 และยังอยู่ระหว่างการสรรหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อเข้าร่วมดำเนินกิจการ ทั้งนี้ คนร. ได้ให้ ธอท. กำหนดขั้นตอนการหาพันธมิตรให้มีความโปร่งใสและเกิดประโยชน์สูงสุดกับภาครัฐ รวมทั้ง ให้ ธอท. จัดทำแผนปฏิบัติ การระยะเร่งด่วนเพื่อให้ ธอท. สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องในระหว่างการสรรหาพันธมิตร  

แห่งที่3 และ 4   บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (บมจ. ทีโอที) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (บมจ. กสท) โดยปัจจุบันคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้จัดตั้งบริษัทโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด (NBN) ในการดำเนินธุรกิจเคเบิ้ลใยแก้วใต้น้ำและอินเตอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์ และบริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (NGDC) ในการดำเนินธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ซึ่ง คนร. ได้ให้ บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท เร่งจัดตั้งบริษัทลูกให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2560 และเปิดให้บริการได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2560

แห่งที่ 5  บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) ในปี 2560 บกท. มีอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Cabin Factor) ที่ดีขึ้นและสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดย คนร. ขอให้ บกท. เร่งเพิ่มรายได้จากผู้โดยสารและเร่งนำระบบการบริหารรายได้และโครงข่ายที่อยู่ระหว่างการพัฒนามาใช้ และให้นำมาตรฐานอุตสาหกรรมมาใช้เป็นคู่เทียบในการ พัฒนาประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง  แห่งที่ 6 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้รายงานความคืบหน้าการจัดหารถ NGV   489 คัน ซึ่งคาดว่าจะจัดหาได้ภายในปีนี้ โดย คนร. ได้ให้ ขสมก. พิจารณาความเหมาะสมและความคุ้มค่าในการจัดหา รถโดยสารแต่ละประเภทเพื่อรองรับการบทบาทการเป็นผู้ประกอบการเดินรถและพัฒนาคุณภาพการให้บริการ แก่ประชาชน

แห่งที่ 6 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดย คนร. ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมก ากับให้ รฟท.เร่งดำเนินการตามแผนการพัฒนาที่ดิน Non– Coreและให้ทบทวนความเหมาะสมในการจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินด้วย รวมทั้ง ให้มีแนวทางการนำรายได้ที่ได้รับจากการพัฒนาที่ดิน Non – Core มาชำระหนี้สินของ รฟท. อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ ให้สร้างความชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบ ผู้รับผิดชอบหลัก และแผนการบริหารจัดการรถไฟสายสีแดงโดยเร็ว ให้มีความพร้อมในการเปิดให้บริการในปี 2563 รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมสร้างความชัดเจนและความพร้อม ในการจัดตั้งกรมการขนส่งทางรางและการจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สิน ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน  

ส่วนแห่งที่7 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ได้รายงานความคืบหน้าการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนว่าขณะนี้มีผู้แสดงความสนใจมากกว่า 1 ราย