คมนาคม ยันวิศวกรไทยมีส่วนร่วมรถไฟไทย-จีนแน่นอน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เรื่องประเด็นมาตรา 44 รถไฟไทย-จีนที่มีบางฝ่ายออกมาคัดค้านนั้น ยืนยันว่าในสัญญาได้กำหนดให้บุคลากรและวิศวกรไทยต้องมีส่วนร่วมทั้งในงานก่อสร้างและด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีความกังวลในเรื่องนี้ ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างขอความพิจารณาเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด)สภาพัฒน์ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าจะผ่านบอร์ดให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้เพื่อเสนอโครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ภายในเดือนมิ.ย.นี้ตามแผน แต่ในสัปดาห์นี้ยังคงไม่สามารถเสนอเรื่องเข้าสู่ครม.ได้ แต่ในสัปดาห์นี้ยังคงไม่สามารถเสนอเรื่องเข้าสู่ครม.ได้ และเมื่อผ่าน ครม.แล้วจะเปิดขายซองประกวดราคาภายในเดือนก.ค.นี้ครม.แล้สจะเปิดขายซองประกวดราคาภายในเดือนก.ค.นี้

นายอาคม กล่าวว่าคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดสภาพัฒน์) แจ้งว่าจะจัดการประชุมนัดพิเศษเพื่อเร่งพิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เพื่อเร่งพิจารณาและเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในสัปดาห์หน้าซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย.เนื่องจากฝ่ายไทยได้ตั้งเป้าหมายว่าลงนามสัญญาฉบับที่ 2.1 จ้างรัฐวิสาหกิจจีนออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธาในเดือน ก.ค. จากนั้นฝ่ายจีนจะส่งมอบให้ฝ่ายไทยเพื่อเปิดประมูลก่อสร้างระยะ 3.5 กิโลเมตรแรก ช่วงกลางดง-ปางอโศก และเริ่มก่อสร้างภายในเดือน ก.ย. ล่าสุด National Development and Reform Commission ( NDRC) แห่งสาธารณะรัฐประชาชนจีนได้แจ้งรายชื่อรัฐวิสาหกิจจีนที่จะลงนามสัญญาฉบับที่ 2.1 กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แล้ว คือองค์การออกแบบรถไฟแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China Railway Design Corporation :CRDC) โดยฝ่ายไทยและฝ่ายมีกำหนดจัดประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 19 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 5-7 ก.ค. นี้ เพื่อหารือสรุปรายละเอียดร่างสัญญาฉบับที่ 2.1 อีกครั้ง

ด้านนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ สภาวิศวกร และ สภาสถาปนิกเกี่ยวกับคำสั่งตามมาตรา 44 ที่มีการยกเว้นการให้วิศวกรและสถาปนิกจากประเทศจีนเข้ามาดำเนินโครงการซึ่งทั้ง 2 องค์กรยืนยันว่าจะต้องมีการทดสอบความรู้ ความเข้าใจในเกี่ยวกับระเบียบ กฎหมายและจรรรยาบรรณวิชาชีพ รวมถึงสภาพทางกายภาพของประเทศ โดยจะมีการจัดโครงการอบรมให้ความรู้และทำการทดสอบด้วย  โดยทั้ง 2 สภาวิชาชีพจะนัดหารือร่วมกันในวันนี้ (20 มิ.ย.)  ก่อนที่จะแจ้งมายังกระทรวงคมนาคม

"ทั้ง 2 สภาวิชาชีพ  ยืนยันว่าจะต้องมีการอบรมและมีการทดสอบให้กับวิศวกรและสถาปนิกที่จะเข้ามาดำเนินโครงการถไฟไทยจีน  โดยทั้. 2 สภาจะไปพิจารณาร่วมกันเพื่อที่จะกำหนดรูปและวิธีการที่จะใช้ในการทดสอบ  และข้อยกเว้นนี้จะมีผลเฉพาะโครงการถไฟไทยจีนเท่านั้น"นายชาติชายกล่าว

ส่วนรายละเอียดและข้อสรุปในการหารือกับทางฝ่ายจีนนั้น นายชาติชาย กล่าวว่า ในภาพรวมของโครงการ มูลค่าโครงการต่างๆนั้นมีความชัดเจนแล้ว ส่วนแบบต่างๆอยู่ระหว่างดำเนินการจะทยอยส่งแบบช่วงแรก 3.5 กม. และ ช่วง 2 ระยะทาง 11 กม. ได้ก่อน หลังจากนั้นภายใน 4 เดือน จะส่งแบบในช่วงที่ 3 ระยะทาง 119 กม.และภายใน 6 เดือน จะส่งแบบช่วงสุดท้าย อีก 119 กม. ส่วนที่ยังไม่ได้ข้อยุติจะเป็นเรื่องของวงเงินค่าจ้างที่ปรึกษา ซึ่งจะต้องเร่งเจรจาเพื่อทำความตกลงให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะมีการลงนามในความตกลง 2 ส่วนแรก  คือการว่าจ้างจีนในการออกแบบรายละเอียด และว่าจ้างจีนเข้ามาเป็นที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง