posttoday

พาณิชย์เผย3ปีคสช.ระบายข้าวแล้ว12ล้านตันได้เงิน1.11แสนล้าน

15 พฤษภาคม 2560

"พาณิชย์"เปิดระบายข้าวสารเป็นการทั่วไปล็อตสุดท้าย 1.82 ล้านตัน คาดมีผู้เข้าร่วมคึกคักหลังตลาดส่งออก-กำลังซื้อฟื้น ชี้ 3 ปีคสช.ระบายข้าวได้แล้ว 12 ล้านตัน ได้เงิน 1.11 แสนล้านบาท

"พาณิชย์"เปิดระบายข้าวสารเป็นการทั่วไปล็อตสุดท้าย 1.82 ล้านตัน คาดมีผู้เข้าร่วมคึกคักหลังตลาดส่งออก-กำลังซื้อฟื้น ชี้ 3 ปีคสช.ระบายข้าวได้แล้ว 12 ล้านตัน ได้เงิน 1.11 แสนล้านบาท 

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ  เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ชี้แจงหลักเกณฑ์เงื่อนไข (ทีโออาร์) การเปิดประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเป็นการทั่วไปครั้งที่ 2/2560 ปริมาณ 1.82 ล้านตัน จากทั้งหมด 210 คลัง ในพื้นที่ 38 จังหวัด ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการเปิดข้าวล็อตสุดท้ายในกลุ่ม 1 หรือข้าวเกรดพี เอ บี ที่มีเกรดซีปนไม่เกิน 20%  สามารถนำมาปรับปรุงเพื่อการบริโภคได้ปกติ

ทั้งนี้ จำนวนข้าว 1.82 ล้านตัน มีข้าวทั้งหมด 16 ชนิด โดยส่วนใหญ่ 70% เป็นข้าวหอมมะลิ รองลงมา เป็นข้าวขาว 10% ปลายข้าว 7%  และที่เหลือเป็นข้าวอื่นๆ โดยหลักเกณฑ์การประมูลข้าวทั่วไปยังยึดหลักการเดียวกับการระบายข้าวทั่วไปครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเปิดให้บุคคลธรรมดา นิติบุคคล รัฐวิสาหกิจ หรือสหกรณ์ ที่มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการค้าข้าว หรือสินค้าเกษตร เข้าร่วมประมูลได้ โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมสินค้าในคลังได้ระหว่างวันที่ 15-19  พ.ค. และยื่นซองเอกสารคุณสมบัติในวันที่ 22 พ.ค.  จากนั้นจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติและเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 24 พ.ค. 2560 

ทั้งนี้ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการค้าข้าวเข้าร่วมประมูลคึกคัก เพราะครั้งนี้เป็นการระบายข้าวทั่วไปล็อตสุดท้าย หากระบายครั้งนี้หมดก็จะเหลือสต๊อกอยู่ 3 ล้านตัน ซึ่งเป็นข้าวสำหรับเข้าสู่อุตสาหกรรมเท่านั้น โดยจะส่งผลดีกับข้าวในฤดูกาลต่อไปที่ยังไม่ออกสู่ตลาด ไม่มีแรงกดดันจากสต๊อกรัฐ

ขณะเดียวกันสถานการณ์การส่งออกในเดือนที่ผ่านมาดีขึ้น มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ เช่น แอฟริกา อิหร่าน จีน มีจำนวนมากขึ้น จึงคาดว่าการประมูลครั้งนี้ อาจจะได้ราคาดีขึ้น ซึ่งครั้งที่ผ่านมามีการอนุมัติราคาขายข้าวหอมมะลิเฉลี่ยประมาณตันละ 1 หมื่นบาท  

สำหรับข้าวที่ประมูลเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อาหารคนและอาหารสัตว์อีก 1.03 ล้านตัน คาดว่าจะเสนอผลการพิจารณาและข้อมูลเพิ่มเติมต่อคณะอนุกรรมการระบายข้าวได้ในวันที่ 19 พ.ค. โดยข้าวล็อตดังกล่าวมีการเสนอซื้อครบ 100% แต่มีระดับราคาเสนอซื้อต่ำสุดตั้งแต่ตันละ 500-3,900 บาท ซึ่งมีช่วงห่างราคาต่างกันมาก โดยเฉพาะราคาตันละ 500 บาท ถือว่าต่ำที่สุดตั้งแต่เปิดประมูลมา ดังนั้นจึงต้องพิจารณถึงความเหมาะสมในการอนุมัติขายโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆชั่งน้ำหนักว่าหากเก็บรักษาต่อไปรัฐจะเสียประโยชน์หรือไม่

นางดวงพร กล่าวว่า นับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศเมื่อเดือนพ.ค. 2557 จนถึงปัจจุบัน ได้มีการระบายข้าวไปแล้วประมาณ 12 ล้านตัน จากสต๊อกที่รับมาทั้งหมด 17.76 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าการระบายข้าวทั้งหมด 1.11 แสนล้านบาท 

"พอใจกับการระบายข้าวในช่วง 3 ปี ที่สามารถระบายได้เกือบ 12 ล้านตัน ออกสู่ตลาด โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาตลาด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากนี้ข้าวที่เหลือ 5 ล้านตัน ไม่นับรวมการประมูลล่าสุด หากประมูลครั้งนี้ได้หมด จะทำให้รัฐสามารถระบายข้าวหมดสต๊อกดภายในเดือนก.ย.นี้"นางดวงพรกล่าว