โฟล์คทุ่ม4แสนล้านบาท ตั้งโรงงานEVแดนมังกร

ค่ายรถเบอร์ 1 ในเยอรมนีเตรียมลงทุน 4 แสนล้าน มุ่งพัฒนารถอีวีในจีนรับกฎใหม่ปี 2019

บริษัท โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป เปิดเผยว่า มีแผนจะลงทุนในจีนมูลค่า 1 หมื่นล้านยูโร (ราว 3.9 แสนล้านบาท) ภายในปี 2025 เพื่อพัฒนาและสร้างรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) รวมถึงรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ตอบรับกับทิศทางในจีนที่กำลังมุ่งสู่รถยนต์พลังงานทางเลือก โดยตั้งเป้าจะออกรถยนต์พลังงานใหม่ (เอ็นอีวี) 15 รุ่น ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า และจะเพิ่มอีก 25 รุ่น ภายหลังปี 2025

โยเคม ไฮซ์มานน์ ประธานโฟล์คสวาเกนประเทศจีน กล่าวในงานกว่างโจว ออโต โชว์ ด้วยว่า ทางกลุ่มตั้งเป้าหมายจำหน่ายรถยนต์เอ็นอีวีในจีน 4 แสนคัน/ปี ภายในปี 2020 และขยายเป้าให้ถึง 1.5 ล้านคัน/ปี ภายในปี 2025

ไฮซ์มานน์ กล่าวด้วยว่า รถบางรุ่นจะสามารถขับได้ไกลถึง 400-600 กิโลเมตร ภายในการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว ขณะที่ปัจจุบัน รถรุ่นเอสของบริษัทเทสล่า สามารถขับได้ไกลระหว่าง 490-632 กิโลเมตร

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ออกกฎแคปแอนด์เทรดเพื่อจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยกำหนดให้บริษัทที่จำหน่ายรถยนต์ตั้งแต่ 3 หมื่นคันขึ้นไป ต้องจำหน่ายรถเอ็นอีวีในสัดส่วนขั้นต่ำ 10% ของยอดขายในปี 2019 และจะเพิ่มเป็น 12% ในปี 2020 ส่งผลให้บริษัทรถยนต์ต้องเร่งปรับตัวและออกรถพลังงานใหม่ในจีนให้ทัน ขณะที่ปัจจุบัน โฟล์คสวาเกนมีรถเอ็นอีวีจำหน่ายในจีนแล้ว 10 รุ่น