posttoday

3-5ปีแจ้งเกิดจยย.ไฟฟ้า ยามาฮ่าแนะรัฐกำหนดนโยบาย

16 พฤศจิกายน 2560

ยามาฮ่าชี้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าใช้เวลาอีก 3-5 ปี แจ้งเกิดในไทย แนะรัฐบังคับใช้กฎหมายกระตุ้นการพัฒนาผู้ประกอบการ

ยามาฮ่าชี้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าใช้เวลาอีก 3-5 ปี แจ้งเกิดในไทย แนะรัฐบังคับใช้กฎหมายกระตุ้นการพัฒนาผู้ประกอบการ

นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ เปิดเผยว่า ทิศทางการสนับสนุนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยของรัฐบาลเป็นแนวโน้มที่สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกที่มุ่งไปสู่เทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งบริษัทมองเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ มองว่าภายใน 3-5 ปีจากนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนประเทศไทย ซึ่งบริษัทต่างๆ รวมถึงบริษัทเองมีการพัฒนาเทคโนโลยีไว้อยู่แล้วและมีการวางจำหน่ายใน ต่างประเทศ โดยยามาฮ่ามีวางจำหน่าย รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นอี-วีโน่ ในประเทศไต้หวันและญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม มองว่าการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมการใช้งานรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เป็นพลังงานไฟฟ้าในเขตเมือง หรือในประเทศจะเป็นตัวกำหนดทิศทางพลังงานในรถยนต์และรถจักรยานยนต์และจะเป็นหนึ่งในการประกอบการตัดสินใจ สำหรับผู้ผลิตรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่จะเร่งคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมตามข้อบังคับกฎหมายและสภาพภูมิประเทศนั้นๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด

นอกจากนี้ เทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันถึงแม้จะมีวางจำหน่ายในต่างประเทศ แต่ในด้านการใช้งานจริงยังมีข้อสังเกตบางประการที่อาจจะยังไม่เหมาะสมกับสภาพการจราจรในปัจจุบันทั่วโลก อาทิ ระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง ขนาดและน้ำหนักแบตเตอรี่และอัตราการทำความเร็วสูงสุด (ท็อปสปีด) เป็นต้น

"ส่วนตัวมองว่าความเหมาะสมสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะต้องมีสมรรถนะในการทำความเร็วสูงสุดได้เทียบเท่ากับรถจักรยานยนต์ขนาด 125 ซีซี รวมถึงระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง ที่ไม่น้อยกว่า 100 กิโลเมตร และมีราคาที่สามารถจับต้องได้ โดยการเปรียบเทียบในทุกด้านกับรถจักรยานยนต์ขนาด 125 ซีซี เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภครับได้ โดยปัจจุบันบริษัทในระดับโลกได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยจะต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลในการสนับสนุนด้านต่างๆ ที่ครบถ้วน" นายประพันธ์ กล่าว

ขณะที่ปัจจัยภายนอก อาทิ สถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะอาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญหลักในการแนะนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด แต่ปัจจัยหลักมาจากความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ที่มีผลโดยตรงต่อผู้บริโภค ทั้งความพึงพอใจและความปลอดภัย