ผู้ใช้ฟอร์ดทุบรถหน้าสำนักงานใหญ่จี้ซื้อรถมีปัญหาคืน

กลุ่มผู้ใช้รถฟอร์ดรวมตัวเรียกร้องให้บริษัทซื้อรถที่มีปัญหาคืน พร้อมทุบรถเป็นการประท้วง

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. เวลา 13.30 น. ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานใหญ่ บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส ประเทศไทย จำกัด อาคารสาทร สแควร์ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เขตสาทร กรุงเทพฯ กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ด ซึ่งประสบปัญหาการใช้รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ดรุ่นเฟียสต้าและรุ่นโฟกัส รวมตัวกันกว่า 60 คน เพื่ออ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องของผู้บริโภคต่อบริษัทฟอร์ด

จากนั้นนายอรรถพล เปียวะชา หนึ่งในผู้เสียหายที่ขับรถยนต์ฟอร์ดรุ่นเฟียสต้า มาจากจังหวัดเชียงใหม่ ได้ใช้พลั่วทุบรถยนต์ของตัวเอง โดยนายอรรถพล กล่าวว่า ตนซื้อรถยนต์ยี่ห้อนี้มาใช้งานได้ไม่นาน พบว่ารถมีปัญหาหลายอย่าง เช่น เกียร์กระตุก รถสั่น และที่ร้ายแรงที่สุด คือเบรกไม่อยู่ ที่ผ่านมาเคยไปเรียกร้องที่ศูนย์บริการหลายครั้ง รวมถึงไปร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักนายกรัฐมนตรี และสภาทนายความฯ ต้องเดินทางไปกลับเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่า 8 ครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า

"วันนี้ตั้งใจมาทุบรถต่อหน้าสื่อมวลชนและหน้าบริษัทฟอร์ด  เพื่อสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ด"นายอรรถพลกล่าว

ด้าน นายกอปรศักดิ์ นุ่มน้อย  แกนนำกลุ่มเหยื่อรถยนต์ และผู้เสียหายจากรถยนต์ฟอร์ด ได้อ่านแถลงการณ์ ดังนี้

“พวกเรา ในฐานะผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด ซึ่งรวมตัวกันในนาม กลุ่มเหยื่อรถยนต์ ที่ขณะนี้มีจำนวนสมาชิกกว่า 1,000 คน ได้มารวมตัวกันที่หน้าบริษัท ฟอร์ดฯ ในวันนี้ เพื่อประกาศให้พี่น้องสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปทราบ ว่าพวกเรากำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนักจากสินค้ารถยนต์ที่ทางบริษัทฟอร์ดผลิตและจัดจำหน่ายอย่างไร้ความรับผิดชอบ ทั้งนี้ รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเฟียสต้าและโฟกัส ซึ่งใช้ระบบเกียร์พาวเวอร์ชิฟต์ 6 สปีด ซึ่งบริษัท ฟอร์ดฯ จำกัด จัดจำหน่าย​​​​มาตั้งแต่ปี 2011 มีปัญหาข้อบกพร่องในการผลิตมาโดยตลอด ทำให้ผู้ใช้รถต้องเสี่ยงอันตราย ทั้งปัญหาไฟไหม้ห้องเครื่องและตัวรถ เครื่องยนต์ดับกะทันหันขณะขับขี่ ระบบเกียร์หยุดทำงานกะทันหันขณะขับขี่ รถสั่น กระตุก และปัญหาชิ้นส่วนอื่น ๆ ของรถเสื่อมสภาพและชำรุดเสียหายเร็วกว่าเวลาอันควร ทำให้ผู้ใช้รถและผู้ใช้ทางร่วมต้องเสี่ยงอันตรายจากอุบัติเหตุ ต้องนำรถเข้าศูนย์ซ่อมบ่อยครั้ง แบกภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อม และเสียโอกาสในการใช้รถยนต์อย่างเต็มที่

“นับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ผู้บริโภคในกลุ่มของเราได้พยายามเรียกร้องความรับผิดชอบจากบริษัทฟอร์ดให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้จบสิ้น แต่สิ่งที่บริษัทฟอร์ดดำเนินการที่ผ่านมา คือการแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า โดยขยายระยะเวลารับประกันอะไหล่เฉพาะบางชิ้นส่วนของระบบเกียร์ และปล่อยให้ผู้บริโภคเผชิญความเสี่ยงจากระบบขับเคลื่อนของรถที่ยังคงบกพร่องและพร้อมจะหยุดทำงานกะทันหันขณะขับขี่ อีกทั้งยังปล่อยให้ผู้บริโภคแบกภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องด้วยตนเอง

“อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้บริโภคมีการเคลื่อนไหวและดำเนินการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี 2559 บริษัทฟอร์ดก็ได้แก้เกมด้วยการแจ้งกับผู้บริโภคว่า ทางบริษัทจะเชิญผู้บริโภคที่ประสบปัญหาเข้าเจรจาหาทางออกร่วมกับบริษัทเป็นราย ๆ ไป แต่เวลาผ่านมาจนถึงขณะนี้ ทางบริษัทก็ไม่ได้มีการดำเนินการตามที่ให้สัญญาไว้แต่อย่างใด แต่กลับออกเงื่อนไขใหม่ให้ผู้บริโภคนำรถเข้าเปลี่ยนชิ้นส่วนคลัตช์รุ่นใหม่ ซึ่งทางบริษัทรับรองว่าจะทำให้ปัญหาการใช้รถยนต์ต่าง ๆ หมดสิ้นไป

“กระนั้นก็ตาม มีผู้บริโภคที่เป็นสมาชิกของกลุ่มเหยื่อรถยนต์จำนวนไม่น้อย ยินยอมนำรถเข้าเปลี่ยนชิ้นส่วนตามเงื่อนไขของทางบริษัท แต่หลังจากนำรถที่เปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ออกมาใช้งาน กลับพบปัญหาเดิมซ้ำซาก ที่สำคัญ จนถึงขณะนี้ ทางบริษัทฟอร์ดก็ยังไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาร้ายแรงที่ผู้บริโภคเผชิญ คือปัญหาความเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดจากระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ทั้งสองรุ่นบกพร่อง และอาจหยุดทำงานกะทันหันขณะขับขี่ ที่ผ่านมา นอกจากบริษัทฟอร์ดจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางเทคนิคด้านความปลอดภัยได้แล้ว  บริษัทยังใช้กลไกการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลเท็จกับสื่อมวลชน โดยระบุว่าทางบริษัทได้มีการแก้ไขปัญหาเป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ได้รับความพึงพอใจ และกล่าวหาว่าผู้บริโภคในกลุ่มเหยื่อรถยนต์เป็นฝ่ายปฏิเสธการแก้ไขปัญหาจากทางบริษัท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเท็จ

“ในวันนี้พวกเราผู้บริโภคในนามกลุ่มเหยื่อรถยนต์ มารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ผู้บริหารบริษัทฟอร์ดมีจิตสำนึกความรับผิดชอบ และมีจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ และขอเรียกร้องให้บริษัทฟอร์ดแสดงความรับผิดชอบโดยการรับซื้อสินค้ารถยนต์ที่บกพร่องคืนจากผู้บริโภคในราคาที่เป็นธรรม และให้ดำเนินการดังกล่าวโดยเร่งด่วนที่สุด เพราะพวกเราไม่ต้องการให้ตัวเราเองและผู้ใช้รถอีกจำนวนมาก ต้องเสี่ยงอันตรายจากการขับรถยนต์ฟอร์ดที่มีความบกพร่องบนท้องถนนวันแล้ววันเล่า โดยไม่มีใครบอกได้ว่า วันใดจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ที่จะทำให้พวกเราหรือผู้ใช้ทางร่วมต้องได้รับผลกระทบร้ายแรง ถึงขั้นบาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิต”