"ซูซูกิ" ดันบริการท็อป 3

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

เหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทได้รับการยอมรับในการดำเนินธุรกิจขายรถยนต์ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) ของบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) คือดัชนีความพึงพอใจด้านบริการงานขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทย

ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 7 ปี แม้ดัชนีความพึงพอใจจะอยู่ในอันดับท้ายตาราง แต่เมื่อปี 2559 ซูซูกิ มีอันดับในดัชนีความพึงพอใจด้านบริการงานขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยอยู่ที่ 4 ถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้านความพึงพอใจของผู้บริโภคถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้บริษัทมีอัตราเติบโตขึ้นสวนทางกับสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดที่ชะลอตัว ซึ่งในปี 2559 บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 2.29 หมื่นคัน เติบโตขึ้น 8% และปี 2560 บริษัทคาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 2.4 หมื่นคัน เติบโตขึ้น 5%

ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงคาดหวังการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งยอดขายและความพึงพอใจผู้บริโภค ซึ่งด้านความพึงพอใจผู้บริโภค คาดหวังว่าจะต้องสูงกว่าอันดับ 4 และมีคะแนนที่สูงตามลำดับ จากการสร้างประสบการณ์ซื้อและบริการรูปแบบใหม่ที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งได้มีการจัดการฝึกอบรมให้กับเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ

พร้อมกันนี้ แผนการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายจึงต้องสอดคล้องควบคู่ไปกับคุณภาพที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 120 แห่ง จากปัจจุบันอยู่ที่ 104 แห่งทั่วประเทศ

“กลยุทธ์หนึ่งที่จะเห็นผลชัดในปีนี้ คือการลบความสบประมาทด้านระยะเวลาการเข้าศูนย์บริการที่จะต้องรอชิ้นส่วนอะไหล่นาน จึงได้เน้นย้ำเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด”

นอกจากนั้น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ยังเป็นส่วนสำคัญให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งในปี 2560 บริษัทมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอีโคคาร์อีกอย่างน้อย 1 รุ่น พร้อมกิจกรรมทางการตลาดอย่างสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งที่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัว “ซูซูกิ สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์ 2” ซึ่งเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษที่เข้ามาเสริมความสดใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ ซูซูกิ สวิฟท์ ที่สร้างความคึกคักให้กับตลาดอีโคคาร์ได้ตั้งแต่เปิดตัว

ความโดดเด่นของรถยนต์รุ่นใหม่ดังกล่าวคือ ชุดแต่งที่ให้มาอย่างจัดเต็มชนิดที่เรียกได้ว่า “หล่อสำเร็จ” ไม่ว่าจะเป็น ล้ออัลลอยลายใหม่สีดำ ไฟแอลอีดี และเสาอากาศทรงครีบฉลาม น่าจะเรียกความสนใจได้จากเหล่าบรรดาสาวกที่จดๆ จ้องๆ รอรถยนต์รุ่นดังกล่าวได้ไม่น้อย ซึ่งถึงแม้จะเป็นเครื่องยนต์และช่วงล่างเช่นเดียวกับตัวปัจจุบัน แต่การขับขี่ที่สนุกสนานยังคงไม่จากหายไป สนนราคาของ “ซูซูกิ สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์ 2” อยู่ที่ 5.99 แสนบาท จ่ายทีเดียวคุ้มลงตัว

ทั้งหมดนี้ จึงต้องติดตามว่าผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาด และบริการหลังการขายที่พอใจเพิ่มขึ้น จะช่วยซูซูกิให้แรงได้ขนาดไหน