posttoday

เมอร์ซิเดส-เบนซ์ จะเลิกผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปในปี 2039

14 พฤษภาคม 2562

"ภายใน 20 ปีข้างหน้า เมอร์ซิเดส-เบนซ์ จะผลิตรถไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น"

"ภายใน 20 ปีข้างหน้า เมอร์ซิเดส-เบนซ์ จะผลิตรถไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น"

เอเอฟพีรายงานว่า ค่ายรถยนต์หรูยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีอย่าง เมอร์ซิเดส-เบนซ์ ประกาศการตั้งเป้าเลิกการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน (combustion engines) ในทุกสายการผลิตของบริษัทภายในปี 2039 หรือในอีก 20 ปีข้างหน้า

"เราตั้งเป้าผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (carbon-neutral) ภายในอีก 20 ปีข้างหน้า" คำยืนยันดังกล่าวมาจากนาย Dieter Zetsche ประธานของกลุ่มบริษัทเดมเลอร์คนใหม่ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งในสัปดาห์หน้า

ด้านโฆษกของกลุ่มเดมเลอร์ระบุว่า รถยนต์เมอรซิเดส-เบนซ์ ทุกคันทุกรุ่นที่ผลิตจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถไฮบริดภายในสองทศวรรษข้างหน้า ในวิธีการต่าง ๆ ที่เป็นไปได้

สิ่งที่เรามุ่งเน้นทุกวันนี้คือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนจากแบตเตอร์รี่ไฟฟ้าล้วน นั้นส่งผลให้รถยนต์ต้องสูญเสียพื้นที่สัมภาระ แต่เรากำลังหาทางแก้ปัญหาอยู่ ขณะเดียวกันก็ยังต้องหาโซลูชั่นอื่นๆอีกเช่น fuel cell หรือรถยนต์ลูกผสมไฮบริด"

เราไม่รู้ว่าทิศทางการใช้รถยนต์ของโลกในอนาคตจะเป็นอย่างไรในอีก 20 ปี ข้างหน้าจะออกมาในรูปแบบใด นั่นเป็นเหตุผลที่เราสนับสนุนความเป็นกลางทางเทคโนโลยีรถยนต์มาแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน

เดมเลอร์ยังกล่าวอีกว่าเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ผลิตด้วยพลังงานทดแทน จะต้องสามารถใช้ได้ในรถยนต์ไฮบริดได้โดยไม่มีการปล่อย CO2 แต่เชื้อเพลิงเหล่านี้ยังไม่ได้ออกสู่ตลาด

ทั้งนี้ สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน (combustion engine) เป็นเครื่องยนต์ในรถยนต์ที่ใช้พลังงานฟอสซิลเป็นหลัก เกิดจากการระเบิดหรือเผาไหม้ส่วนผสมของเชื้อเพลิงกับอากาศเกิดขึ้นภายในเครื่องยนต์ แรงระเบิดจากการเผาไหม้จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนตัวรถ

โดยปัจจุบันสหภาพยุโรปมีการเข้มงวดเรื่องอัตราการปล่อยค่าคาร์บอนไดออกไซด์ของรถยนต์ที่วิ่งตามท้องถนน ประกอบกับการเกิดกรณีโกงค่าอัตราปล่อยไอเสียของบริษัทโฟล์คสวาเก้น ยิ่งทำให้บริษัทรถยนต์หลายค่ายจริงจังเรื่องควบคุมค่าไอเสีย และเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น