ตลาดรถมือสองชอร์ต ราคารับซื้อตกต่ำกระทบลูกค้ายังรับราคาไม่ได้แถมไฟแนนซ์เข้ม

มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ เตรียมผุดดิจิทัลโชว์รูมต้นแบบรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค 4.0

นายสมชาย ตระกูลภิรมย์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทมาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ ในเครือกลุ่ม บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทยช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 อยู่ในภาวะสถานการณ์ตลาดไม่มีรถยนต์เข้าสู่ตลาด (ซัพพลายชอร์ต) เนื่องจากปัจจัยของตลาดรถยนต์ใหม่ไม่สามารถส่งมอบได้ตั้งแต่ต้นปี

นอกจากนี้ ระดับราคารับซื้อรถยนต์มือสองในตลาดยังอยู่ในภาวะตกต่ำ ส่งผลกระทบให้ลูกค้าที่อยากขายรถยนต์ยังไม่ยอมรับกับราคาซื้อของเต็นท์ ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากสถาบันการเงิน (ไฟแนนซ์) ลดยอดการอนุมัติสินเชื่อทำให้สถานการณ์การซื้อขายของตลาดชะลอตัว

"เมื่อไฟแนนซ์ลดยอดจัด ส่งผลทำให้ลูกค้าผู้ซื้อรถมือสองจะต้องใช้เงินดาวน์สูงขึ้นจากปกติที่ต้องใช้เงินดาวน์ 10-15% ของราคา เป็น 20-25% ซึ่งตัวเลขที่เหมาะสมของเงินดาวน์รถยนต์มือสองคือต่ำกว่าเงินดาวน์รถยนต์ใหม่ 50%" นายสมชาย กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับเปลี่ยนวิธีการขายไปสู่ดิจิทัล ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่ช่วยให้การซื้อขายรถยนต์มือสองง่ายขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคโดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตมีสัดส่วน 20% ของยอดขาย ขณะที่ผู้บริโภคใน กทม. ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 10%

ขณะที่บริษัทมีแผนการปรับโฉมโชว์รูมรูปแบบใหม่ที่สาขาประดิษฐ์มนูธรรม ให้เป็นดิจิทัลโชว์รูมซึ่งจะเป็นสาขาต้นแบบที่จะใช้ในการขยายโชว์รูมของบริษัทหลังจากนี้ที่จะมีขนาดเล็กลงและมีการโชว์รถเพียง 1-2 คันเท่านั้น โดยจะมีการสต๊อกรถไว้ที่ส่วนกลางและให้ลูกค้าเลือกจากหน้าจออินเตอร์แอ็กทีฟทำให้สามารถลดการลงทุนได้หลายล้านบาท/แห่ง ส่งผลดีต่อการบริหารค่าใช้จ่ายและต้นทุนการขาย

นายสมชาย กล่าวว่า หากโชว์รูม ดังกล่าวสำเร็จและเป็นที่ตอบรับที่ดีนั้น จะมีการขยายไปในแหล่งชุมชนพร้อมกับการสร้างแบรนด์ควบคู่ให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทจะใช้งบประมาณทางการตลาดมูลค่าราว 10 ล้านบาท ในการสร้างแบรนด์ ซึ่งมากขึ้นกว่าปกติราว 1 เท่าตัว

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ถือเป็นอีก 1 ช่องทางการขาย หรือนับเป็นอีก 1 โชว์รูม จากพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต ดังนั้นบริษัทจะต้องทำการให้ข้อมูลต่อตลาดและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมากขึ้น

สำหรับยอดขาย 2 เดือนแรกของบริษัทมียอดขายอยู่ที่ราว 350 คัน ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยคาดหวังว่าสถานการณ์ความชัดเจนในประเทศจะดีขึ้นหลังจากนี้ ซึ่งจะส่ง ผลดีต่อตลาดและส่งผลให้บริษัทบรรลุ เป้าหมายที่วางไว้ 2,500 คันในปีนี้

ภาพประกอบข่าว