ห่วงขึ้นค่าแรงกระทบภาคผลิตรถยนต์

นายกสมาคมชิ้นส่วนฯ ติงนโยบายหาเสียงขึ้นค่าแรง ตัวเร่งผู้ประกอบการใช้โรบอตมาแทนแรงงาน

นางอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า จากนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองในการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น สมาคมกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งอาจเป็นการเร่งผลักดันให้บริษัทผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรมนำเอาหุ่นยนต์ (โรบอต) มาทดแทนแรงงานเร็วขึ้น

สำหรับอีกประเด็นที่น่ากังวลคือ อาจส่งผลต่อการตัดสินใจย้านฐานการลงทุน จากการแข่งขันดึงดูดนักลงทุนของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีการหยิบยกค่าแรงมาเป็นประเด็นสำคัญ หรืออาจเกิดกรณีไม่ลงทุนเพิ่มก็เป็นได้

"เราได้เสนอประเด็นความกังวลนี้ให้สภาอุตสาหกรรมพิจารณาแล้ว โดยภาคเอกชนไม่อยากจ่ายค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้นหากคุณภาพแรงงานไม่ได้มาตรฐาน แต่ยินดีจะจ่ายตามความสามารถของแรงงาน ซึ่งหากต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่ม มองว่าไม่คุ้มค่าและส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิต" นางอัชณา กล่าว

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เอกชนเป็นห่วงเรื่องความต่อเนื่องของนโยบายหลังการเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าจะกระทบอุตสาหกรรม ยานยนต์ ส่วนการชูประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงนั้น ในแง่ผู้ใช้แรงงานเป็นเรื่องที่ดีแต่ผู้ประกอบการอาจได้รับผลกระทบ เพราะจะมีผลต่อต้นทุนและราคาขายที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ รถยนต์ 1 คัน ประกอบด้วย ค่าชิ้นส่วน 70% ค่าแรง 10% และอื่นๆ 20% หากค่าแรงปรับเพิ่มขึ้นอาจจะส่งผลต่อราคาชิ้นส่วนจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นและส่งผลถึงภาพรวมราคารถยนต์

นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ กล่าวว่า อยากเสนอให้รัฐบาลใหม่สนับสนุนรถกระบะให้เทียบเท่ากับรถยนต์นั่ง เพราะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์โปรดักต์แชมเปี้ยนที่ช่วยสร้างรายได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ