posttoday

เอ็มจีซีชี้5จีหนุนธุรกิจ แย้มแผนลงทุนด้านไอทีหลักร้อยล้านรองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต

14 กุมภาพันธ์ 2562

เอ็มจีซี-เอเชีย ตั้งเป้า 3 ปี รายได้ทะลุ 5 หมื่นล้าน เตรียมเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ใหม่เสริมทัพ

เอ็มจีซี-เอเชีย ตั้งเป้า 3 ปี รายได้ทะลุ 5 หมื่นล้าน เตรียมเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ใหม่เสริมทัพ

นายสัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ เอ็มจีซีเอเชีย เปิดเผยว่า เทคโนโลยี 5จี ที่กำลังจะเริ่มให้บริการในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนทางธุรกิจของอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงโอกาสทางธุรกิจของบริษัทที่จะทรานส์ฟอร์มบิซิเนสไปยังธุรกิจใหม่ในอนาคต

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทได้ศึกษาธุรกิจใหม่ 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจคาร์แชริ่ง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ (ออโตโนมัส) และธุรกิจสถานีชาร์จไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนได้ในปี 2564-2565 ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นจากเทคโนโลยี 5จี ซึ่งมีความเชื่อมโยงต่อธุรกิจดังกล่าว

ขณะที่แผนการลงทุนด้านเทคโนโลยีไอทีเพื่อทรานส์ฟอร์มธุรกิจของบริษัทในปี 2562 นี้ จะลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ในโครงการระยะที่ 2-3 (เฟส) หลังจากปีที่ผ่านมาลงทุนในระดับเดียวกันในเฟสแรก เพื่อรองรับธุรกิจในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาในการประกอบหรือผลิตรถยนต์ทั้งในรูปแบบเครื่องยนต์สันดาปภายในและยานยนต์ไฟฟ้า โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มมากขึ้นอย่างจริงจังมาโดยตลอด

สำหรับแผนธุรกิจดังกล่าวจะนำไปสู่เป้าหมายระยะยาว 3 ปีจากนี้ ที่คาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท จากปีที่ผ่านมารายได้รวมกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และตั้งเป้าหมายปี 2562 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.8 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 15% จากปีก่อน

พร้อมกันนี้จะขยายเครือข่ายการจำหน่ายและการบริการ (โชว์รูม) ของรถยนต์แบรนด์ต่างๆ ภายใต้การบริหารงานในฐานะผู้แทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคจะปรับเปลี่ยนไปสู่การซื้อขายออนไลน์ก็ตาม โดยมองว่าสินค้าประเภทรถยนต์ต้องมีจุดแสดงสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสและการให้บริการหลังการขาย

ขณะเดียวกันได้ขยายการขายผ่านช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์มทุกรูปแบบ อีกทั้งยังมีแผนเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นในปีนี้ จากปัจจุบันที่มี 5 แบรนด์

ด้านปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตาคือ สถานการณ์การเลือกตั้ง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อตลาดรถยนต์ในประเทศ รวมถึงนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย ซึ่งหากเปลี่ยนแปลงไปจนผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ทัน จะส่งผล กระทบต่อตลาดให้ชะลอตัว โดยหวังว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะสานต่อโครงการต่างๆ ให้สำเร็จตามการวางนโยบายทั้งในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และภาพรวมของประเทศที่มาถูกทางแล้ว