ตระกูลคงอุดมควัก 30 ล้าน เปิดแอพรวมอู่ซ่อมรถ
เอ็ม ชินเนอร์จี้ฯ ลุยสร้างคอมมูนิตี้เกี่ยวกับรถยนต์ผ่านแอพ ผนึกพันธมิตรมอบสิทธิประโยชน์
เอ็ม ชินเนอร์จี้ฯ ลุยสร้างคอมมูนิตี้เกี่ยวกับรถยนต์ผ่านแอพ ผนึกพันธมิตรมอบสิทธิประโยชน์
นายชื่นชอบ คงอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม ชินเนอร์จี้ ครีเอทีฟวิตี้ ผู้พัฒนาแอพลิเคชั่น วีฟอร์คาร์ (WE4CAR) เปิดเผยว่า บริษัทใช้งบลงทุนราว 30 ล้านบาท ในการพัฒนาและการแนะนำแอพพลิเคชั่นดังกล่าวลงสู่ตลาดในประเทศไทย ซึ่งแอพพลิเคชั่นดังกล่าวพัฒนาขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลของอู่รถยนต์ในประเทศไทยเพื่อแนะนำการให้บริการและการใช้งานจริงจากผู้บริโภค รวมถึงการแสดงผลการค้นหาอู่รถยนต์ในบริเวณที่ผู้ใช้งานอยู่ปัจจุบันเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาและเข้ารับบริการ
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดดาวน์โหลดไว้ที่ 3 แสนดาวน์โหลดภายในปี 2562 ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ได้พร้อมกับการเปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้ภายในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ และเป้าหมายรายได้ในปีแรกหลังเปิดให้ดาวน์โหลดจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 15% ของงบประมาณการลงทุน โดยใช้งบประมาณทางการตลาดมูลค่าราว 15 ล้านบาท ในช่วงแรกของแผนธุรกิจ คาดว่าจะมีระยะเวลาคืนทุนภายใน 3 ปี โดยรายได้หลักจะมาจากการขายโฆษณาบนแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ รวมถึงการทำคอนเทนต์บนยูทูบอีกด้วย
สำหรับแผนธุรกิจจะแบ่งออกเป็น 2 เฟสด้วยกัน ได้แก่ เฟส 1 จะเน้นการสร้างคอมมูนิตี้ในการให้ผู้บริโภคได้สัมผัสการใช้งานและรีวิวให้คะแนนอู่รถยนต์ต่างๆ และเฟส 2 จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและการอัพเดทสภาพการจราจรบนแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ผู้บริโภคใช้งานในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ จะมีการทำคอนเทนต์ความรู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาและใช้เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการเข้ารับบริการหรือแก้ไขอาการต่างๆ ของตัวรถเบื้องต้น
นายชื่นชอบ กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ อู่รถยนต์ โมบายโอเปอเรเตอร์ และผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน เพื่อร่วมมือในการจัดทำโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ ให้กับผู้ใช้บริการ ซึ่งจะนำแอพพลิเคชั่นดังกล่าวไปติดตั้งไปพร้อมกับสมาร์ทโฟน (พรีโหลด) ของโมบาย โอเปอเรเตอร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
ขณะที่ปัจจุบันอู่รถยนต์บนแอพพลิเคชั่นดังกล่าวมีจำนวนอยู่ที่ 2,000 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 แห่ง ในช่วงการเปิดตัวปลายปี จากจำนวนอู่รถยนต์ในประเทศไทยที่มีอยู่ที่มากกว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ
“บริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเพื่อให้เป็น เว็บพอร์ทัล (Website Portal) ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ครบวงจร” นายชื่นชอบ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีมูลค่ามหาศาล ทั้งในแง่ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสอง แต่ช่องว่างทางธุรกิจในการรวบรวมข้อมูลอู่รถยนต์เพื่อให้รถยนต์ที่อยู่บนถนนในประเทศไทยเข้ารับบริการนั้นยังเป็นโอกาสจึงได้มีการลงทุนดังกล่าว
ด้านการแข่งขันของธุรกิจแอพพลิเคชั่นรวบรวมข้อมูลอู่รถยนต์ในปัจจุบันมีจำนวนผู้เล่นน้อยราย โดยมองว่าการแข่งขันยังไม่รุนแรงและเป็นการช่วยส่งเสริมการกระตุ้นการรับรู้ของผู้บริโภคในการใช้บริการในลักษณะนี้ ซึ่งบริษัทจะใช้จุดแข็งในความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ความสะดวกในการใช้งาน และความครบวงจร เพื่อแข่งขันได้ในตลาด