ฟูโซ่ตั้งโรงงาน450ล้าน ลุยประกอบรถบรรทุกในไทยตั้งในเขตอีอีซี คาดผลิตได้ปี2563
ฟูโซ่ เผยแผนการดำเนินงาน ชูไทยเป็นยุทธศาสตร์หลักในภูมิภาคก่อนขยายตลาดไปทั่วโลก
ฟูโซ่ เผยแผนการดำเนินงาน ชูไทยเป็นยุทธศาสตร์หลักในภูมิภาคก่อนขยายตลาดไปทั่วโลก
นายไมเคิล เคมเปอร์ รองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการลูกค้ารถบรรทุกในภูมิภาคเอเชียของ มิตซูบิชิ ฟูโซ่ ทรัคแอนด์บัส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทใช้เงินลงทุนมูลค่า 450 ล้านบาท ในการก่อสร้างโรงงานประกอบรถบรรทุกในประเทศไทยเป็นครั้งแรก บนพื้นที่ 6,000-7,000 ตร.ม. โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ปีละ 4,000 คัน เพื่อรองรับการจำหน่ายในประเทศไทยเป็นหลัก
ขณะที่โรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ใน เขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ในปี 2562 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2563 โดยปัจจุบันได้มีการนำเข้ารถบรรทุกจากประเทศอินเดียและญี่ปุ่นเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันได้มีการสนับสนุนด้านราคาจากบริษัทแม่เพื่อให้ราคาจำหน่ายของรุ่นนำเข้าเทียบเท่ากับรุ่นที่จะผลิตในประเทศหลังจากนี้
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นตลาดหลัก ในยุทธศาสตร์ ด้วยสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อขยายสู่ตลาดอื่นทั่วโลก ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในประเทศไทย
"แผนการดำเนินงานของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 ระยะ (เฟส) ได้แก่ การลงทุนสร้างโรงงานประกอบในประเทศไทย การขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย และการ ส่งออก ซึ่งถ้าหากในประเทศไทยได้รับการตอบรับที่ดีของตลาดและประสบ ความสำเร็จจะมีการมองการขยายไปยังตลาดอื่นๆ" นายเคมเปอร์ กล่าว
นายซาช่า ริคาเน็ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดมเลอร์ คอมเมอร์เชียล วีฮีเคิลส์ (ประเทศไทย) หรือ ดีซีวีที กล่าวว่า ตามกลยุทธ์ทางการตลาดของเดมเลอร์ทั่วโลกในการรวมธุรกิจรถบรรทุกแบรนด์ฟูโซ่และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เข้าไว้ด้วยกันภายใต้บริษัท ดีซีวีที ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต้อผู้บริโภคชาวไทยต่อแบรนด์ โดยระยะแรกโรงงานนี้จะประกอบรถบรรทุกขนาดใหญ่แบรนด์ ฟูโซ่ รุ่น FJ2528C เป็นอันดับแรก
สำหรับแผนการขยายเครือข่าย ผู้จำหน่ายจะเพิ่มขึ้นเป็น 24 แห่งภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีจำนวน 12 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งมีรูปแบบการโฟกัสแบรนด์ออกเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.รวม 2 แบรนด์ไว้ในโชว์รูมเดียวกัน กับ 2.แยกเฉพาะแบรนด์ตามพื้นที่
นอกจากนี้ ภาพรวมตลาดรถบรรทุกในประเทศไทยในปี 2561 คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6 หมื่นคัน เติบโตขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 2.5 หมื่นคัน และจะทยอยเติบโตขึ้นตามลำดับจากปัจจัยการลงทุนในโครงสร้าง พื้นฐานของรัฐ (เมกะโปรเจกต์) และการเติบโตของการขนส่ง (โลจิสติกส์) ส่วนยอดขายปี 2561 บริษัทคาดว่าจะเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อนที่อยู่ที่ 191 คัน ซึ่งยอดขาย 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) อยู่ที่ 300 คัน