ลุ้น"อีโคคาร์"ทุบสถิติขายสูงสุดรอบ5ปี
ปี2561จะเป็นครั้งแรกในรอบ5ปี ที่ตลาดรถยนต์อีโคคาร์จะทำสถิติยอดขายสูงสุด
ปี2561จะเป็นครั้งแรกในรอบ5ปี ที่ตลาดรถยนต์อีโคคาร์จะทำสถิติยอดขายสูงสุด
****************************
โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์
พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันต่างแยกย่อยลงเฉพาะกลุ่มโดยเฉพาะรถยนต์ที่เดิมทีเคยซื้อไว้เผื่ออนาคต ตอนนี้กลับมาพิจารณาถึงความต้องการในการใช้งานจริง เพื่อตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ให้ถูกประเภทกับการใช้งาน
รถยนต์ประเภทอีโคคาร์ถือเป็นอีกหนึ่งที่มีจุดเด่นชัดเจนในด้านความประหยัดพลังงานและราคาที่เข้าถึงง่ายทำให้ใครต่อใครหลายคนตัดสินใจเลือกมาใช้งาน ซึ่งเริ่มมีบทบาทมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสัดส่วนที่เติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับรถยนต์นั่งนั้นมีทิศทางเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากสถานการณ์การจราจรติดขัดที่เพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ ก็ดีหรือต่างจังหวัดก็ดี ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการรถยนต์ส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอีโคคาร์ที่ให้ความประหยัดและมีขนาดที่พอเหมาะพอดี
ทั้งนี้ การออกแบบของรถยนต์อีโคคาร์ในปัจจุบันจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างออกแบบมาให้มีขนาดภายในห้องโดยสารที่ใหญ่ขึ้น จึงส่งผลให้ผู้บริโภคสนใจในรถประเภทดังกล่าว พร้อมกันนี้การแข่งขันของโปรโมชั่นและการสนับสนุนให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้รถกลุ่มดังกล่าวเติบโตดี
นอกจากนี้ ในปี 2561 ถือเป็นปีที่สิ้นสุดการถือครองรถคันแรก 5 ปี ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มทยอยเปลี่ยนและมองหารถยนต์คันใหม่ ประกอบกับกำลังซื้อและสถานการณ์เศรษฐกิจและความผ่อนคลายของสถาบันการเงินในการอนุมัติส่งผลดีต่อตลาด ขณะที่ความนิยมของคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นกับการเป็นเจ้าของรถยนต์ในปัจจุบันนี้พิจารณาเลือกซื้อรถยนต์อีโคคาร์เป็นอันดับต้นๆ
“ตลาดอีโคคาร์มียอดขายสูงสุดในปี 2556 ซึ่งเป็นปีที่มีโครงการรถคันแรก จนกระทั่งมาถึงในปี 2561 นี้ พิจารณาจากตัวเลขยอดขายของตลาดอีโคคาร์ครึ่งปีที่แล้วที่อยู่ในระดับ 1 แสนคันนั้น จะส่งผลให้ทั้งปีของปีนี้ตลาดรถยนต์อีโคคาร์จะเป็นครั้งแรกที่จะทำสถิติยอดขายสูงสุดในรอบ 5 ปี หรือคาดว่าอยู่ในระดับ 2 แสนคัน ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนของอีโคคาร์ในตลาดรถยนต์นั่งปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 60% ของตลาดรถยนต์นั่ง” วัลลภ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปี 2561 บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดรถยนต์อีโคคาร์ไว้ที่ 20% จากปัจุบันอยู่ที่ราว 12% ที่มาจาก 3 ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ได้แก่ ซูซูกิ สวิฟท์ ซูซูกิ เซียส และซูซูกิ เซเลริโอ ซึ่งล่าสุดได้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความสดใหม่ใน ซูซูกิ สวิฟท์ ไปเมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับยอดขายรวมของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 3.4 หมื่นคัน ซึ่งสูงขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 2.5 หมื่นคัน และมองว่าหากสถานการณ์ในประเทศมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากนี้เป็นต้นไป จะส่งผลให้ภาพรวมตลาดรถยนต์รวมในไทยอยู่ที่ 9.6 แสนคัน จากต้นปีเคยคาดการณ์ไว้ที่ 9.2 แสนคัน จากปัจจัยบวกต่างๆ ที่เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นเรื่อยๆ อาทิ หนี้ครัวเรือนลดลง สถานการณ์เศรษฐกิจ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงความมั่นใจจากการที่รัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งในช่วงต้นปีหน้า
ในแง่ผลิตภัณฑ์ใหม่บริษัทมีแผนการแนะนำสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในเวลานี้