บูมพร้อมชาร์จ รับรถอีวีขยายตัว

โดย...ภูวดล โกมลรัตนเสถียร

กระแสของรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในประเทศไทย เริ่มได้รับการตอบรับ และมีทิศทางขยายตัวขึ้น จากมาตรการสนับสนุนสิทธิพิเศษทางภาษีของภาครัฐ ที่ช่วยกระตุ้นให้ภาคเอกชน ผู้ผลิต ยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงผู้จัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า เกิดความเชื่อมั่น และกระตุ้นความต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าผ่านการสนับสนุนมาตรการภาษี

ภัทร์ การุณกรสกุล ประธาน กรรมการ บริษัท พร้อมชาร์จ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องชาร์จรถยนต์ ไฟฟ้า เปิดเผยว่า แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคจะเปลี่ยนพฤติกรรมการ ใช้งานจากรถยนต์พลังงานสันดาปมาเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะรถยนต์ ส่วนบุคคลที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในอนาคต จากปัจจุบันที่มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ปลั๊กอินไฮบริดมากกว่า 1 หมื่นคันในประเทศไทย ดังนั้นเพื่อรองรับสัญญาณการเติบโต บริษัทจึงมองเห็นช่องทาง ในการนำเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามา เปิดตลาดในไทย

ทั้งนี้ บริษัทได้นำเครื่องชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์ EO Charging จากอังกฤษ ที่ออกแบบสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เข้ามาตอบสนอง ความต้องการของผู้ใช้งาน เนื่องจากพบว่าในปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ยังใช้สายชาร์จที่แถมมากับรถ ที่ออกแบบสำหรับชาร์จในกรณีฉุกเฉินและระยะสั้นๆ เท่านั้น ไม่เหมาะกับการชาร์จระยะนาน อีกทั้งไม่มีระบบตัดไฟหรือควบคุมกำลังไฟ

พร้อมกันนี้ เพื่อตอบสนองกับ กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้ได้สัมผัสประสิทธิภาพของเครื่องชาร์จ จึงร่วมกับบริษัท โปลิเคม กรุ๊ป คลินิกรักษาความงามยานยนต์ เริ่มติดตั้ง เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่สาขาเมกาบางนา เป็นแห่งแรก โดยจะชาร์จไฟให้กับผู้ที่มาใช้บริการโปลิเคม ตั้งเป้าขยายความร่วมมือติดตั้งเครื่องชาร์จให้ครบทั้ง 27 สาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ภายในปี 2562

วชิรญาณ์ การุณกรสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท พร้อมชาร์จ กล่าวว่า แผนธุรกิจในปีแรกนี้ บริษัทได้วางงบการตลาดและแผนประชาสัมพันธ์อยู่ที่ 10 ล้านบาท โดยจัดแคมเปญ แจกเครื่องชาร์จคุณภาพสูง นำเข้าจากอังกฤษ ให้ผู้ที่ลงทะเบียน 100 ราย ได้ทดลองใช้ฟรี 1 เดือน พร้อมบริการติดตั้งโดยทีมวิศวกรไฟฟ้าที่เชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดประสบการณ์และให้เกิดความเชื่อมั่นในการใช้งาน ซึ่งเชื่อว่าท้ายที่สุดผู้ทดลองใช้ 100 รายนี้จะมีคำสั่งซื้อกลับมา

ขณะเดียวกัน ในช่วง 3 เดือนแรก ได้จัดโปรโมชั่นลด 30% สำหรับเครื่องชาร์จไฟฟ้าขนาด 3.7 กิโลวัตต์ และ 7.0 กิโลวัตต์ สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และขนาด 22 กิโลวัตต์ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 5.9-7.9 หมื่นบาท จากปกติ 8.5 หมื่น-1.05 แสนบาท โดยตั้งเป้ายอดขายในปีแรกนี้มีจำนวน 1,000 เครื่อง สัดส่วนลูกค้า 80% เป็นผู้ใช้งานทั่วไป และ 20% เป็นห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม

ขณะที่ภายใน 3-5 ปีจากนี้ เชื่อว่า ธุรกิจพร้อมชาร์จจะขยายตัวตามจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้น และหากในอนาคตมีการแข่งขันในตลาดเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสูงขึ้น โดยเฉพาะจากจีน บริษัทก็พร้อมปรับกลยุทธ์นำแบรนด์อื่นเข้ามารับการแข่งขัน โดยมีเป้าหมาย ขึ้นเป็นผู้นำครบวงจรด้านอุปกรณ์ของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย