posttoday

ปอร์เช่คาเยนน์เจน3 อีกขั้นของเทคโนโลยี

14 เมษายน 2561

ถือเป็นรถยนต์เรือธงหลักของปอร์เช่อีกรุ่นหนึ่งที่สร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักอย่างปอร์เช่ คาเยนน์ที่วันนี้เดินทางมาถึง เจเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว ในตระกูลรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี)

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

ถือเป็นรถยนต์เรือธงหลักของปอร์เช่อีกรุ่นหนึ่งที่สร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักอย่างปอร์เช่ คาเยนน์ที่วันนี้เดินทางมาถึง เจเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว ในตระกูลรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี)

"โพสต์ทูเดย์" มีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปสัมผัสรถยนต์รุ่นดังกล่าวที่ปอร์เช่ ไดรฟ์วิ่ง เซ็นเตอร์ ที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย โดยมีรูปแบบกิจกรรมให้ได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสามารถรีดสมรรถนะของตัวรถออกมาแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดชนิดที่ว่าแม้แต่เจ้าของปอร์เช่ เองก็คงไม่กล้าเอารถยนต์ของตัวเองไปขับขี่บนเส้นทางที่จัดขึ้น แม้ว่าสมรรถนะรถจะสามารถขับขี่ผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดายก็ตาม อาทิ สถานีทดสอบเสถียรภาพในการบังคับทิศทาง (Handling Exercises) สถานีทดสอบความแม่นยำรวดเร็วของช่วงล่าง (Slalom Station) และสถานีทดสอบการเบรก (Breaking Challenges) และสนามทดสอบแบบออฟโรด

ปอร์เช่คาเยนน์เจน3 อีกขั้นของเทคโนโลยี

 

แนวคิดการออกแบบของปอร์เช่ คาเยนน์ถูกผสมผสานระหว่างสมรรถนะการขับขี่และการควบคุมอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ ทำให้เกิดอารมณ์การขับขี่ในชีวิตประจำวันแฝงเอาไว้ด้วยความสปอร์ตและความสนุกสนาน จนกระทั่งถูกขนานนามว่า รถสปอร์ตอเนกประสงค์ ที่ดีที่สุดของปอร์เช่เลยก็ว่าได้

เส้นสายรายละเอียดของตัวรถถูกออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเจเนอเรชั่นก่อนหน้า รวมถึงการออกแบบให้มีความเรียบหรูดูดีขึ้นในทุกส่วนสัมผัสไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าใหม่ กระจังหน้าใหม่ ไล่เรียงไปยังไฟท้ายและสปอยเลอร์หลังที่สามารถปรับระดับได้อัตโนมัติ และล้ออัลลอยลายใหม่

ขณะที่ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความ "ง่าย" และความ "ล้ำสมัย" ผนวกเข้าไว้ด้วยกัน เช่น ลดความซับซ้อนของปุ่มบางปุ่มที่ดูใช้งานแล้วเข้าใจยากออกไปบ้างและเอาเทคโนโลยีที่คุ้นเคยอย่างระบบสัมผัส (ทัชสกรีน) สำหรับปุ่มกดเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน และนำเอาหน้าจอทัชสกรีนเข้ามาทำให้ทุกอย่างดูเข้าใจง่ายขึ้นและน่าใช้งานอย่างสนุก

ปอร์เช่คาเยนน์เจน3 อีกขั้นของเทคโนโลยี

 

ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์ของปอร์เช่ คาเยนน์ที่มีด้วยกัน 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 440 แรงม้า และปอร์เช่ คาเยนน์ เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า

ปอร์เช่คาเยนน์เจน3 อีกขั้นของเทคโนโลยี

 

สำหรับไฮไลต์สำคัญของปอร์เช่ คาเยนน์ ใหม่ ที่มาพร้อมด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัย 5 จุดด้วยกัน ได้แก่

1.ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง (RearAxle Steering) เป็นอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติม ช่วยลดความกว้างวงเลี้ยวจาก 12.1 เมตร เหลือ 11.5 เมตร เพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน

2.ระบบเบรกใหม่ล่าสุด Porsche Surface Coated Brake (PSCB) ซึ่งได้เคลือบสารเพิ่มประสิทธิภาพพิเศษและผ้าเบรกที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ ทำให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นทั้งอายุการใช้งานที่นานขึ้นกว่า 30% และมีอัตราการสึกหรอต่ำ รวมถึงการตอบสนองในการชะลอความเร็วที่ดีขึ้นจากเดิม

3.สปอยเลอร์หลังคาปรับระดับอัตโนมัติ (Adaptive Roof Spoiler) ซึ่งเป็นรถในตระกูลเอสยูวีคันแรกของโลกที่ได้รับการติดตั้งสปอยเลอร์หลังคาปรับระดับอัตโนมัติ หนึ่งในอุปกรณ์หลักของระบบเสริมสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ รวมทั้งเพิ่มแรงกดเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ในแต่ละสถานการณ์ รวมถึงการทำหน้าที่เป็น แอร์เบรก เมื่อผู้ขับขี่ลดความเร็วด้วยการเบรกอย่างต่อเนื่อง สปอยเลอร์ จะปรับมุมองศาทำหน้าที่เสมือนเบรกอากาศ เพิ่มแรงกดอากาศและแรงฉุดในขณะชะลอความเร็ว สามารถลดระยะทางที่ใช้ในการเบรกจนรถหยุดนิ่งได้สูงสุดกว่า 2 เมตร

4.ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package โหมดการขับขี่หลายรูปแบบ คือ Normal, Sport และ Sport Plus นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระในโหมด "Individual" และโหมดการขับขี่แบบ Porsche Stability Management (PSM) ระบบจัดการของระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวที่ขับขี่ด้วยสมรรถนะสูงสุดได้อย่างมั่นใจ

5.ระบบการขับขี่แบบออฟโรดเต็มรูปแบบ อาทิ ระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ ระยะใต้ท้องรถที่มีความสูง 240 มิลลิเมตร มุมปีนป่ายมากกว่า 21 องศา และความสูงที่สามารถลุยน้ำได้สูงสุด 525 มิลลิเมตร ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel System และโหมดการขับขี่ต่างๆ อาทิ ถนนลูกรังหรือพื้นหญ้าเปียกชื้นโหมด "Gravel" ทางหล่มโคลนในป่าหรือถนนที่เป็นร่องลึกโหมด "Mud" ทางที่เป็นทรายโหมด  "Sand"  และพื้นผิวขรุขระต่างระดับโหมด "Rock" พร้อมแสดงผลข้อมูลบนหน้าจอ ได้แก่ มุมองศาของพวงมาลัย ความเอียงของตัวรถด้านข้าง และมุมเงยเข้าหาขณะปีนไต่ ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจนำพาตัวรถให้ผ่านพ้นอุปสรรคได้อย่างราบรื่น รวมถึงกล้องมองรอบทิศทาง Surround View มุมมองด้านบนพร้อมสภาพแวดล้อมโดยรอบของตัวรถจะถูกถ่ายทอดให้ผู้ขับขี่เห็นอย่างชัดเจน

ทั้งหมดนี้ ถูกแสดงออกมาให้เห็นผ่านบททดสอบที่ปอร์เช่จำลองขึ้นมาให้เห็นถึงการทำงานจริงเมื่ออยู่ในสภาวะต่างๆ ในครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าแม้เจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ จะไม่ได้ใช้เพราะความรักและเป็นห่วงรถของท่าน แต่รู้อย่างหนึ่งไว้เถอะว่าปอร์เช่ คาเยนน์ ใหม่ ทั้งรุ่นเอส และเทอร์โบ มาพร้อมด้วยราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 11.4-16.9 ล้านบาท มีสมรรถนะมากกว่าที่ไว้ขับไปแค่ในเมืองแบบโก้เก๋เท่านั้น

ปอร์เช่คาเยนน์เจน3 อีกขั้นของเทคโนโลยี