มาสด้าไทยโตสุดในโลกหลังปิดรอบปีบัญชี2560

มาสด้าเผยยอดขายปีงบ 2560 ไทยพุ่ง 31% เติบโตที่สุดในโลก เปิดกลยุทธ์ผนึกดีลเลอร์จัดกิจกรรม ในภูมิภาคหลังผลตอบรับดี

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2560 (เม.ย. 2560-มี.ค. 2561) บริษัทมียอดขายรวมอยู่ที่ 56,379 คัน ซึ่งถือได้ว่าสูงสุดในรอบ 5 ปี เติบโตขึ้น 31% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถือได้ว่าเติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของมาสด้าในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาด 6.3% สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของมาสด้า ทั่วโลก อีกทั้งส่งผลทำให้มาสด้า ประเทศไทย มียอดขายสูงเป็นอันดับที่ 7 ของโลก รองจากจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา และเยอรมนี

สำหรับยอดขายรถยนต์ไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ของปี 2561 มียอดขายรวมอยู่ที่ 16,586 คัน เติบโตขึ้น 43% และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 7% โดยมาสด้า 2 มียอดขายอยู่ที่ 10,313 คัน เติบโตขึ้น 55% มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 มียอดขายอยู่ที่ 2,371 คัน เติบโตขึ้น 198% มาสด้า 3 มียอดขายอยู่ที่ 1,290 คัน ลดลง 3% มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 มียอดขายอยู่ที่ 958 คัน ลดลง 6% มาสด้า บีที-50 โปร มียอดขายอยู่ที่ 1,650 คัน ลดลง 8% และมาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 มียอดขายอยู่ที่ 4 คัน

ขณะปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดไตรมาสแรกของปี 2561 เติบโตมาจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการทดลองใน 6 พื้นที่ด้วยกัน ได้แก่ จ.นครราชสีมา ระยอง พระนครศรี อยุธยา สงขลา กาฬสินธุ์ และกรุงเทพฯ ซึ่งผลตอบรับที่ได้คือเติบโตขึ้น 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับการจัดกิจกรรมปกติของ ดีลเลอร์ โดยมีแผนที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในลักษณะเดียวกันของปีนี้

นอกจากนั้น การปรับภาพลักษณ์ศูนย์จำหน่ายและบริการ (โชว์รูม) และการพัฒนาด้านบริการหลังการขายส่งผลต่อความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่ดียิ่งขึ้น

ด้านกลยุทธ์ออนไลน์มาร์เก็ตติ้งได้อบรมและพัฒนาพนักงานขายให้ใช้เครื่องมือดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ ส่วนภาพรวมการใช้เม็ดเงินออนไลน์มาร์เก็ตติ้งเพิ่มขึ้น 20-40% ทุกปี

"กลยุทธ์ทางการตลาดปีนี้จะร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายในภูมิภาคต่างๆ ให้มากขึ้น ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายระหว่าง กรุงเทพฯ กับต่างจังหวัดของมาสด้าอยู่ที่ 50 ต่อ 50% ตามลำดับ ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวตลอดปีนี้คาดว่าจะส่งผลให้สัดส่วนดังกล่าวปรับเปลี่ยนเป็น 40 ต่อ 60% ตามลำดับ ซึ่งถึงแม้ว่าปีนี้จะไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่แต่กลยุทธ์ทางการตลาดจะผลักดันให้บริษัทเติบโต" นายชาญชัย กล่าว

ทั้งนี้ จากปัจจัยบวกส่งผลดีต่อเนื่องมาจากช่วงปลายปีก่อนมาถึงปีนี้ จากทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนของโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลรวมถึงปัจจัยลบที่ยังไม่มีในขณะนี้ ได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อ

นายชาญชัย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ปี 2561 คาดว่าจะอยู่ที่ 9.2 แสนคัน จากปัจจัยบวกและกำลังซื้อผู้บริโภคที่มีแนวโน้มดี ด้านเป้าหมายของบริษัทในปีงบประมาณ 2561 (เม.ย. 2561- มี.ค. 2562) คาดว่า จะมียอดขายมากกว่า  6  หมื่นคัน