posttoday

ไทยเร้นท์ฯกางแผน5ปี ตั้งเป้ารายได้1.6หมื่นล้าน พร้อมปรับองค์กรรับเทรนด์โลกอนาคต

11 เมษายน 2561

ไทยเร้นท์ฯ เปิดแผน 5 ปีหวังรายได้แตะ 1.6 หมื่นล้าน เล็ง แตกไลน์ธุรกิจสู่คาร์แชริ่ง รับการเปลี่ยน แปลงด้านการเดินทางของโลก

ไทยเร้นท์ฯ เปิดแผน 5 ปีหวังรายได้แตะ 1.6 หมื่นล้าน เล็ง แตกไลน์ธุรกิจสู่คาร์แชริ่ง รับการเปลี่ยน แปลงด้านการเดินทางของโลก

นายวิกรานต์ อมาตยกุล รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มสายงานผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์ ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ระยะยาวของกลุ่มบริษัท 5 ปี (2561-2565) จากนี้ไว้อยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในปี 2561 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 10% จากปี 2560 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของบริษัทแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.บริการให้เช่ารถยนต์ มีสัดส่วนอยู่ที่ 25-30% ของรายได้รวม 2.ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ใหม่ มีสัดส่วนอยู่ที่ 35% ของรายได้รวม และ 3.ธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสอง มีสัดส่วนอยู่ที่ 35% ของรายได้รวม และมีฐานลูกค้าจำนวนทั้งสิ้น 1.5 ล้านราย โดยบริษัทมีเป้าหมายในการเป็นทางเลือกการเดินทางของลูกค้าอย่างครบวงจรในอนาคต

"ในปี 2563 บริษัทมีแผนการนำธุรกิจของบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินงานบริษัทที่อยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 40 ปี" นายวิกรานต์ กล่าว

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการเดินทางในอนาคตของโลก 4 ปัจจัย ได้แก่ 1.รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ 2.รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 3.คาร์แชริ่ง 4.การเป็นเจ้าของรถยนต์ลดลง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นเทรนด์ที่ส่งผลให้ บริษัทมองทิศทางการดำเนินงานในอนาคตและมองว่าปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จะเห็น การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในพฤติกรรมของผู้บริโภคภายในปี 2565

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการเริ่มทำธุรกิจคาร์แชริ่งภายในแผนระยะยาวของบริษัท อีกทั้งการมุ่งเน้นการเพิ่มปริมาณรถเช่าโดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ระดับพรีเมียมทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค กลุ่มองค์กรที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเช่าแทนการซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลด้านความคุ้มค่าและความสะดวกในการมีรถใช้ระหว่างซ่อมและไม่ต้องมีต้นทุนในการบำรุงรักษา

ขณะที่ปัจจัยภาคการท่องเที่ยวของประเทศมีอัตราการเติบโตจากปริมาณ นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งเริ่มเห็นปัจจัยบวกมาตั้งแต่ปีก่อนและคาดว่าจะต่อเนื่องมาถึงปีนี้ส่งผลดีต่อเนื่องมายังธุรกิจรถเช่าซึ่งมีความสอดคล้องกับภาคการท่องเที่ยวของประเทศ

นายวิกรานต์ กล่าวว่า ด้านการแข่งขันของธุรกิจรถเช่าในประเทศมีการแข่งขันที่รุนแรงด้านโปรโมชั่นจากผู้เล่นในตลาดรายต่างๆ โดยเฉพาะรถเช่าระยะสั้นที่เจาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งมีพฤติกรรมการขับรถท่องเที่ยวด้วยตนเองเพิ่มขึ้น

"รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างจัดทำ เครื่องมือและซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการรถยนต์ที่อยู่ในพอร์ตของบริษัท โดยใช้เงินลงทุน 30-40 ล้านบาท เพื่อรองรับการ เชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่างๆ ในอนาคต โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมมือกับอาลีเพย์ เพื่อรองรับการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่น อาลีเพย์และมุ่งเน้นในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง" นายวิกรานต์ กล่าว