posttoday

ค่ายรถญี่ปุ่นมุ่งขายจีน หลังตลาดสหรัฐเริ่มชะลอตัว

05 กุมภาพันธ์ 2561

โตโยต้าตั้งเป้ายอดขายจีนปีนี้เพิ่ม 9% ขณะฮอนด้าคาดตลาดจีนแซงหน้าสหรัฐในอีกไม่กี่ปีนี้

โตโยต้าตั้งเป้ายอดขายจีนปีนี้เพิ่ม 9% ขณะฮอนด้าคาดตลาดจีนแซงหน้าสหรัฐในอีกไม่กี่ปีนี้

รอยเตอร์สและนิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า บรรดาค่ายรถญี่ปุ่นขนาดใหญ่ต่างมุ่งเป้าไปยังตลาดรถยนต์จีนมากขึ้นในปีนี้ หลังจากที่อัตราการขยายตัวในตลาดสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ตั้งเป้ายอดจำหน่ายรถยนต์ในจีนปีนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 9% จากปีที่แล้ว เป็น 1.4 ล้านคัน นำโดยรถยนต์อเนกประสงค์เอสยูวี ซึ่งยังคงเป็นที่นิยมในตลาดจีน

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่าเป้าหมายของโตโยต้ายังเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องกำลังการผลิต และการแข่งขันที่รุนแรง แต่หากแก้ปัญหากำลังการผลิตได้ก็อาจทำให้ยอดขายในจีนปีนี้ขยายได้ถึง 1.5 ล้านคัน

ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า โตโยต้ามีแผนจะออกรถซับคอมแพกต์เอสยูวีรุ่นซีเอชอาร์ 2 รุ่น ในช่วงกลางปีนี้ โดยรถยนต์ในกลุ่มเอสยูวียังเป็นที่นิยมในจีน และมียอดขายของทุกยี่ห้อในปี 2017 เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน

ด้านบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ระบุว่า ยอดขายในจีนปีที่แล้วปรับตัวขึ้นเกือบ 17% ไปอยู่ที่ 1.45 ล้านคัน นำโดยรถเอสยูวีรุ่นซีอาร์วี และรถซีดานรุ่นซีวิค ซึ่งแม้จะยังตามหลังตลาดใหญ่สุดอย่างสหรัฐที่ 1.64 ล้านคัน แต่ยอดขายในจีนมีอัตราเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และทำให้คาดการณ์ว่าจีนจะแซงสหรัฐขึ้นเป็นตลาดเบอร์ 1 ได้ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ฮอนด้ามียอดขายในจีนเพิ่มขึ้น 10.9% อยู่ที่ 1.26 แสนคัน ขณะที่โตโยต้ามียอดขายเพิ่มขึ้น 24.5% อยู่ที่ 1.27 แสนคัน

นอกจากนี้ ฮอนด้ายังปรับเพิ่มแนวโน้มกำไรในปีงบประมาณปัจจุบันที่จะสิ้นสุดเดือน มี.ค.อีก 4% โดยคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ 7.75 แสนล้านเยน จากค่าเงินเยนเฉลี่ยที่ 110 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบคาดการณ์เดิม 109 เยน/ดอลลาร์ นอกจากนี้ยังเป็นผลจากกฎหมายปฏิรูปภาษีในสหรัฐ ที่ช่วยลดภาระทางภาษีลง 3.46 แสนล้านเยน ในไตรมาส 3 ของปีงบประมาณนี้

ทั้งนี้ ฮอนด้าคาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ขนาดเล็กที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งในญี่ปุ่นและประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย จะทำให้ยอดขายทั่วโลกในปีงบประมาณปัจจุบันเพิ่มขึ้นอีกราว 1 แสนคัน เป็น 5.23 ล้านคัน และรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 19.41 ล้านคัน จากคาดการณ์เดิมที่ 19.18 ล้านคัน

ภาพ เอเอฟพี