posttoday

นิสสันเบียดโตโยต้าขึ้นอันดับ2โลก

02 กุมภาพันธ์ 2561

กลุ่มพันธมิตร นิสสัน เรโนลต์ มิตซูบิชิ ทำยอดขายรถทั่วโลกทะลุ 10 ล้านคัน ครองแชมป์สูงสุดอันดับ 2 รองจากโฟล์ค

กลุ่มพันธมิตร นิสสัน เรโนลต์ มิตซูบิชิ ทำยอดขายรถทั่วโลกทะลุ 10 ล้านคัน ครองแชมป์สูงสุดอันดับ 2 รองจากโฟล์ค

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กลุ่มพันธมิตรยานยนต์ที่นำโดยบริษัท นิสสัน มอเตอร์ เรโนลต์ และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกาศความสำเร็จในการเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ได้สูงสุดอันดับ 2 ของโลกในปี 2560 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 10.608 ล้านคัน โดยเป็นครั้งแรกที่มียอดขายเกิน 10 ล้านคัน และสามารถแซงหน้าบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ที่หล่นไปอยู่ในอันดับ 3

คาร์ลอส กอส์น ประธานกลุ่มพันธมิตร เรโนลต์ นิสสัน มิตซูบิชิ กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกของทาง กลุ่มในปีที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 6.5% นำโดยยอดขายในจีน ซึ่งทำให้กลุ่ม ขึ้นสู่อันดับ 2 ของโลกได้เป็นครั้งแรก โดยสะท้อนให้เห็นว่าทางกลุ่มสามารถเจาะตลาดโลกได้อย่างแข็งแกร่ง มี รุ่นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ได้ในวงกว้างและเฉพาะกลุ่ม และสะท้อนว่าลูกค้าสนใจ ในเทคโนโลยียานยนต์ของกลุ่ม

รายงานระบุว่า ยอดขายของ นิสสันและมิตซูบิชิปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ในประเทศจีน ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ ที่สุด นำโดยกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์เอสยูวี โดยบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรยานยนต์หลังจากนิสสันเข้าซื้อหุ้น 34% ในมิตซูบิชิ เมื่อเดือน ต.ค. 2559

ขณะเดียวกัน นิสสันยังเป็นคู่แข่งรายใหญ่ในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งนำโดยรถยนต์รุ่นลีฟ ที่ครองแชมป์ยอดขายรถอีวีทั่วโลกมาหลายปีก่อนที่ยอดขายรถอีวีในตลาดสหรัฐ จะลดความร้อนแรงลงในปีนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลงทำให้ลูกค้าเริ่มกลับมาซื้อรถยนต์ขนาดใหญ่มากขึ้น

ด้านเจ้าหน้าที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งยังรวมถึงรถยนต์แบรนด์ไดฮัทสุและฮีโน่ เปิดเผยว่า บริษัทจะไม่มุ่งเน้นเพิ่มยอดจำหน่ายรถยนต์โดยการเปรียบเทียบกับตัวเลขของบริษัทอื่น และย้ำว่าการที่ยอดขายของโตโยต้าในปีที่แล้วปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามต่อเนื่องที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยโตโยต้ามียอดขายเพิ่มขึ้น 2.1% อยู่ที่ 10.386 ล้านคัน และนับเป็นยอดขายที่ทะลุหลัก 10 ล้านคัน เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

ขณะที่บริษัท โฟล์คสวาเกน จากเยอรมนี ยังคงครองแชมป์ยอดขายรถยนต์สูงสุดอันดับ 1 ทั่วโลก โดยเพิ่มขึ้น 4.3% อยู่ที่ 10.741 ล้านคัน และคาดว่าบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) จากสหรัฐจะตามมาในอันดับที่ 4 โดย ในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้ว จีเอ็ม มียอดขายรถทั่วโลกลดลง 2.2%