posttoday

ลุ้นยอดขายรถแตะ2ล้านคัน

06 ธันวาคม 2560

ส.อ.ท.หวังลงทุนโต ดันยอดขายรถยนต์ปีหน้าสดใส ด้านอุตสาหกรรมเหล็กต่อเนื่องลุ้นได้อานิสงส์ด้วย

ส.อ.ท.หวังลงทุนโต ดันยอดขายรถยนต์ปีหน้าสดใส ด้านอุตสาหกรรมเหล็กต่อเนื่องลุ้นได้อานิสงส์ด้วย

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดการผลิตเพื่อจำหน่ายของรถยนต์ปี 2561 เบื้องต้นที่ปริมาณ 1.96 ล้านคัน สูงกว่าปี 2560 ที่คาดว่ามียอดผลิต 1.95 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 8.6 แสนคัน จากปี 2560 ที่คาดว่ามี 8.5 แสนคัน โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือ สถานการณ์ตัวเลขการลงทุนภาคเอกชนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวดีและจะส่งผลดีต่อยอดขายรถยนต์ด้วย

ทั้งนี้ การผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกคาดว่าจะอยู่ในระดับเท่ากับปี 2560 ที่จำนวน 1.1 ล้านคัน โดยต้องติดตามการนำเข้ารถยนต์ของประเทศเวียดนามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีสัดส่วนสูงในตลาดเอเชีย ล่าสุดตลาดดังกล่าวยังติดลบ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเวียดนามเริ่มชะลอการซื้อ จากมาตรการทางภาษีที่จะลดลงในเดือน ม.ค. 2561 รวมทั้งเริ่มมีมาตรการคุมการนำเข้ารถยนต์มากขึ้น เพื่อป้องกันอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในเวียดนามเอง

“ยอดการผลิตรถยนต์ปี 2561 เพิ่มไม่มาก เพราะอยากดูตัวเลขเดือน พ.ย. และ ธ.ค. 2560 ให้ชัดๆ อีกครั้งด้วย ตอนนี้ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศ เราหวังจากการลงทุนภาคเอกชน รวมทั้งการลงทุนในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่เริ่มกลับมาจะช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น รวมทั้งกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นขึ้นจะช่วยยอดขายในประเทศ ส่วนตลาดส่งออกเรายังไม่ค่อยแน่ใจ ต้องรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจแต่ละประเทศก่อน” นายสุรพงษ์ กล่าว

ด้าน นายวิกรม วัชระคุปต์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ส.อ.ท. กล่าวว่า สำหรับอุตสาหกรรมเหล็กปี 2561 คาดว่าขยายตัว 4-5% ตามจีดีพีที่คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3-4% เนื่องจากการลงทุนของภาครัฐและเอกชนในปีหน้าจะมีทิศทางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในอีอีซีที่คาดว่าจะเห็นเป็นรูปธรรม รวมถึงอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เหล็กอย่างอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย

“ในปีหน้าทิศทางเหล็กด้านความต้องการใช้และราคาจะดีกว่าปีนี้ แต่สิ่งที่ยังห่วงคือเหล็กล้นตลาดโดยเฉพาะเหล็กเส้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางผู้ผลิตพยายามร้องเรียนไปยังกระทรวงให้ชะลอหรือหยุดการให้ใบอนุญาตตั้งโรงงานเหล็กในประเทศเพิ่มขึ้น แต่รัฐเองก็มองว่าจะเป็นการลิดรอนสิทธิ โดยการขอตั้งโรงงานเหล็กยังมีมาอย่างต่อเนื่อง”นายวิกรม กล่าว