posttoday

จับตาตลาดรถยนต์ โค้งสุดท้ายแข่งเดือด

23 ตุลาคม 2560

ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีโดยเฉพาะ 2 เดือนสุดท้าย เชื่อได้เลยว่า ทุกค่ายต้องผลักเร่งดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ให้มากที่สุด

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

ผ่านไปแล้ว 3 ไตรมาสสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปี 2560 ด้วยตัวเลขยอดขายสะสม 620,715 คัน เติบโตขึ้น 11.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของทุกตลาด ได้แก่ ตลาดรถยนต์นั่งเติบโต 20% ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันรวมรถกระบะดัดแปลง (พีพีวี) เติบโต 7.2% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์เติบโต 6.7%

การเติบโตดังกล่าวเป็นผลจากความต้องการในประเทศยังคงมีอยู่สูง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น นักลงทุนมีความเชื่อมั่นโดยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด พร้อมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปีการแข่งขันจะทวีความรุนแรงขึ้น จากดัชนีการขายตามฤดูกาลจะบ่งชี้ว่าไตรมาสสุดท้ายเป็นช่วงที่มียอดขายสูงสุด ด้วยกิจกรรมและข้อเสนอพิเศษต่างๆ จากบรรดาค่ายรถที่เตรียมนำมาเสนอผู้บริโภคเพื่อบรรลุเป้าหมายการขายของปีจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์

อย่างไรก็ตาม แม้โตโยต้าจะยังคงมียอดขายมาเป็นอันดับ 1 แต่หากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังมีอัตราตัวเลขที่ติดลบ สาเหตุมาจากไม่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จนกระทั่งกลางเดือน ส.ค. ที่เปิดตัวในกลุ่มรถยนต์นั่ง และตามมาติดๆ ในกลุ่มเดียวกันอีก 1 รุ่น ในช่วง 1 เดือนต่อมา

ดังนั้นเอง จึงเป็นอีกหนึ่งที่มาของโตโยต้าที่ตกเป็นรองด้านยอดขายในตลาดรถยนต์นั่งให้กับฮอนด้า ตลอดระยะเวลา 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) จนกระทั่งเดือน ก.ย.เป็นเดือนแรกที่โตโยต้ากลับมานำในตลาดดังกล่าว แม้ว่าจะตีตื้นกลับมานำได้ในเดือน ก.ย. แต่ทว่า 9 เดือน ฮอนด้ายังคงเป็นอันดับ 1 อยู่ในตลาดรถยนต์นั่ง ด้วยยอดขาย 69,282 คัน ขณะที่โตโยต้าเป็นอันดับ 2 ด้วยยอดขาย 65,213 คัน

คงจะต้องติดตามหลังจากนี้ เพราะการเปิดตัวของโตโยต้าในกลุ่มรถยนต์นั่งถึง 2 รุ่น เป็นสัญญาณการทวงคืนแชมป์รถยนต์นั่งให้ได้ภายในปีนี้ แต่กระนั้นสงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร เชื่อได้ว่าในช่วงไตรมาสสุดท้าย ฮอนด้าอาจจะมีไม้เด็ดอะไรที่ต้องออกมาเพื่อรักษาอันดับไม่ให้สูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปอย่างง่ายดายแน่นอน

อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ การเติบโตของฟอร์ดที่มียอดขายสะสม 9 เดือน อยู่ที่ 39,508 คัน เติบโตขึ้น 36.7% ขณะที่ฟอร์ดไม่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซ้ำร้ายยังถูกกระแสโจมตีจากผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดในรุ่นฟอร์ด เฟียสต้า

ส่วนแบรนด์ที่น่าจับตา คือ มาสด้า ที่มาแรงแซงทางโค้งแม้จะไม่ได้ช่วงชิงตำแหน่งเบอร์ 1 แต่ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 ของตลาดรถยนต์นั่งได้อย่างถาวร ซึ่งเบียดนิสสันที่เป็นผู้ครองอันดับนี้อยู่ในช่วงก่อนหน้า

ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีโดยเฉพาะ 2 เดือนสุดท้าย เชื่อได้เลยว่า ทุกค่ายต้องผลักเร่งดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ให้มากที่สุด