'ไรด์-แชริ่ง'อาเซียนพุ่งแรง

แกร็บทุ่มทุนลุยเมียนมา หวังจับตลาดที่กำลังโตแรง เพิ่มศักยภาพแข่งขันคู่แข่งอูเบอร์ 'โก-เจ็ก'ได้ค้าออนไลน์จีนหนุนหลัง

แกร็บ ผู้ให้บริการไรด์-แชริ่ง รายใหญ่จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วางแผนลงทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,300 ล้านบาท) ในเมียนมาสำหรับอีก 3 ปีข้างหน้า และร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อขยายการบริการ รวมถึงบริการหลักอย่างรถยนต์โดยสารร่วมทางและการชำระเงินออนไลน์ผ่านแกร็บเพย์

นอกจากนี้ แกร็บยังเตรียมเปิดบริการเดินทางในระดับองค์กร เพื่อช่วยบริหารจัดการการเดินทางให้กับพนักงานบริษัทเอกชน รวมถึงเพิ่มการจ้างงานใน เมียนมาอีก 5 เท่า เป็น 200 อัตรา

"เมียนมา คือ ตลาดเป้าหมายของเรา เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่และเป็นเศรษฐกิจที่เข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็ว" หมิงหม่า ประธานของแกร็บ กล่าว

ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า การลงทุนเพิ่มดังกล่าวของแกร็บจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเพื่อสู้กับอูเบอร์ คู่แข่งจากสหรัฐ ซึ่งเปิดตัวในย่างกุ้งเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดเมียนมากำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่การเปิดตัวบริการโทรคมนาคมจากนอร์เวย์และกาตาร์ ทำให้พลเมืองสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทางโทรศัพท์มือถือได้มากขึ้น

บลูมเบิร์กยังรายงานว่า นับตั้งแต่แกร็บเปิดตัวในเมืองย่างกุ้งเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการมากถึง 2.5 หมื่นเที่ยว ในแต่ละวัน และมีผู้ขับแกร็บมากกว่า 6,000 คน โดยแกร็บร่วมมือกับซีบีแบงก์ ธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา และเวฟมันนี ผู้ให้บริการการเงินในย่างกุ้ง เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่เปิดบัญชีธนาคารได้ง่ายขึ้นและเข้าถึงบริการการเงินอื่นๆ เนื่องจากเมียนมายังนิยมใช้เงินสดเป็นส่วนใหญ่

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า เจดีดอทคอม อี-คอมเมิร์ซจากจีน เข้าลงทุนในโก-เจ็ก บริการไรด์-แชริ่งจากอินโดนีเซีย เป็นมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,300 ล้านบาท) ในการระดมทุนรอบล่าสุด ประกอบไปด้วย ผู้ลงทุนรายเก่าและใหม่ โก-เจ็ก เพิ่มทุนไปได้ 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.3 หมื่นล้านบาท) ส่งผลให้มูลค่าของโก-เจ็ก อยู่ที่ราว 2,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 8 หมื่นล้านบาท) ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า โก-เจ็ก ยังได้เงินทุนสนับสนุนจากเทนเซนต์ บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีน ท่ามกลางบริษัททุนจีนหลายแห่งที่เข้ามาลงทุนในสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีหลายแห่งในอาเซียน เนื่องจากมีประชากรรวมกันมากถึง 600 ล้านคนในภูมิภาค และกำลังตื่นตัวด้านอี-คอมเมิร์ซ ขณะที่แกร็บได้ซอฟต์แบงก์ บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ โดยแกร็บมีมูลค่ารวมราว 4,080 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 1 แสนล้านบาท)