posttoday

โลกมุ่งพัฒนารถไฟฟ้า ใกล้ปิดฉากยุครถยนต์ส่วนตัว

26 มกราคม 2560

เทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นยังเป็นโอกาสของบริการขนส่งสาธารณะสู่การเข้ามามีบทบาทในชีวิตคนเมืองมากขึ้น

โดย...นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์ 

ขณะที่ทั่วโลกกำลังตื่นเต้นกับความก้าวหน้าของรถยนต์ไฟฟ้าและรถไร้คนขับนั้น การพัฒนารถพลังงานไฟฟ้าไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่รถยนต์ส่วนบุคคล แต่ยังขยายครอบคลุมไปถึงยานพาหนะขนาดเล็กและรถโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลให้ผู้คนซื้อรถยนต์ส่วนตัวน้อยลงในอนาคต และหันไปใช้บริการขนส่งสาธารณะหรือยานพาหนะขนาดเล็กที่มีความคล่องตัวมากกว่าแทน

วอลสตรีท เจอร์นัล เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ การผสมผสานเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ที่ดียิ่งขึ้น เข้ากับเครื่องยนต์ไฟฟ้าสมรรถะสูง และวัสดุน้ำหนักเบา ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถสร้างรถไฟฟ้าได้หลากหลายรูปแบบตั้งแต่สเกตบอร์ดไฟฟ้าน้ำหนัก 10 ปอนด์ (ราว 4.5 กิโลกรัม) ไปจนถึงรถบัสไฟฟ้าน้ำหนัก 20 ตัน (ราว 1.8 หมื่นกิโลกรัม)

ในงานแสดงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค (CES) ครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ในเมืองลาสเวกัสของสหรัฐ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการแสดงถึงความก้าวหน้าอีกขั้นของการพัฒนารถไฟฟ้าสองล้อและยานพาหนะขนาดเล็กที่ออกแบบมาให้เข้ากับชีวิตคนเมืองมากยิ่งขึ้น เช่น สกูตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นสแว็กเกอร์ ของบริษัท สแว็กตรอน ที่ทำจากเส้นใยคาร์บอนและมีน้ำหนักเพียง 17 ปอนด์ (ราว 7 กิโลกรัม) แต่สามารถทำความเร็วได้ตั้งแต่ 24-40 กิโลเมตร (กม.)/ชั่วโมง (ชม.) หรือโกโกโร สมาร์ทสกูตเตอร์ ของบริษัท โกโกโร ในไต้หวัน ซึ่งเร่งความเร็วจาก 0 กม./ชม. ไป 49 กม./ชม. ภายในเวลา 4.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 96 กม./ชม.

นอกเหนือจากบริษัทขนาดเล็กแล้ว บริษัทผลิตรถรายใหญ่ระดับโลกได้รุกตลาดรถไฟฟ้าขนาดเล็กด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้าที่เปิดตัว ไอ-โรด รถไฟฟ้าสามล้อขนาดเล็กตั้งแต่เมื่อปี 2015 รวมถึงเรโนลต์ ที่พัฒนาโมเดลรถไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นทวิซี

ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นยังเป็นโอกาสของบริการขนส่งสาธารณะสู่การเข้ามามีบทบาทในชีวิตคนเมืองมากขึ้น โดยอูเบอร์และลิฟต์ ผู้ให้บริการแท็กซี่ออนไลน์ กำลังหาทางนำรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ ซึ่งมีต้นทุนถูกกว่ารถยนต์ทั่วไปมาให้บริการแทน ซึ่งหากบริษัทเหล่านี้สามารถขยายบริการออกไปได้ทั่วโลก จำนวนผู้ซื้อรถยนต์มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากบริการขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเป็นตัวเลือกการเดินทางที่ดีกว่าการขับรถยนต์ส่วนตัว เมื่อพิจารณาจากปัญหามลภาวะและประชากรหนาแน่นยิ่งขึ้นในหลายเมืองใหญ่ของประเทศจีน อินเดีย และยุโรปในขณะนี้

ทิศทางดังกล่าวสอดคล้องกับผลสำรวจล่าสุดของบริษัทบัญชี เคพีเอ็มจี ที่สอบถามผู้บริหารบริษัทรถยนต์จำนวนมากในอังกฤษ พบว่า 74% คาดการณ์ว่า ภายในปี 2025 จำนวนผู้ซื้อรถยนต์ส่วนตัวภายในประเทศจะปรับตัวลดลงราวครึ่งหนึ่ง เนื่องจากผู้บริโภคจะหันไปใช้บริการรถสาธารณะหรือรถขนาดเล็กกว่าแทน

จอห์น ลีช หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านรถยนต์ของเคพีเอ็มจีในอังกฤษ กล่าวว่า บริการแท็กซี่ไร้คนขับในอังกฤษคาดว่าจะปฏิวัติแนวทางการสัญจรของชาวอังกฤษในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ เนื่องจากนโยบายพื้นที่สีเขียวของประเทศ ประชากรในเมืองหนาแน่นยิ่งขึ้น รวมถึงราคาเชื้อเพลิงกำลังปรับตัวขึ้น