อะไหล่จีนนำเข้าทะลักไทย

ผู้ผลิตผ้าเบรกเรียกร้อง สมอ.ออกมาตรฐานบังคับชิ้นส่วนยานยนต์ทุกรายการกันอะไหล่จีนทะลัก

นายเกษม อิสระพิทักษ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล (1994) ผู้ผลิตและจำหน่ายผ้าเบรก ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขันของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า ต้องการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ภาคบังคับกับชิ้นส่วนยานยนต์ทุกรายการ หรือหามาตรการดูแลการนำเข้าอะไหล่รถยนต์ให้ได้มาตรฐาน จากปัจจุบันชิ้นส่วนยานยนต์ส่วนใหญ่จะเป็น มอก.ทั่วไปเท่านั้น

ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้อะไหล่รถยนต์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่ไม่ได้คุณภาพหรือเป็นของเลียนแบบทะลักเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่นำไปใช้ในรถสาธารณะ เช่น รถโดยสารสาธารณะ รถแท็กซี่ เพราะมีราคาถูกแต่อาจส่งผลเสียในระยะยาว

“อยากให้ภาครัฐคุมมาตรฐานตั้งแต่ต้นทาง เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยประชาชน และอยากให้ดูตัวอย่างในหลายประเทศที่มีมาตรฐานการผลิตสินค้าและนำเข้าสินค้าที่เข้มงวด เช่น มาเลเซีย ใช้มาตรฐานซีลิม ขณะที่ตะวันออกกลางจะมีมาตรฐานอี-มาร์ค ซึ่งอ้างอิงมาจากมาตรฐานยูโร”นายเกษม กล่าว

นายเกษม กล่าวถึงนโยบายสนับสนุนรัฐบาลที่จะส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ว่า แม้ผ้าเบรกจะเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในรถยนต์ไฟฟ้า แต่ด้วยเทคโนโลยีต่างกันทำให้ผ้าเบรกที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าจะมีอัตราการสึกหรอน้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป ขณะที่การผลิตต้องมีการเพิ่มเทคโนโลยีมากขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องมีความพร้อมด้านวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้น และสิ่งที่ผู้ประกอบการอะไหล่รถยนต์ต้องเร่งเรียนรู้ คือการปรับตัวตามทิศทางการเปลี่ยนของเทคโนโลยีโลกที่จะเกิดขึ้น

“ปัจจุบันผู้ผลิตผ้าเบรกรายใหญ่ของไทยมีประมาณ 5-6 ราย และเป็นรายเล็กที่เป็นผู้ผลิตกับให้รายใหญ่อีกทอดอีกประมาณ 10 กว่าราย โดยมีมูลค่าการค้าในประเทศไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะไม่เกิดขึ้นเร็วมากนัก และจากการประเมินผลของนักวิเคราะห์ คาดว่ารถอีวีจะเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 10% ภายใน 20 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 1% ในปัจจุบัน โดยจะเป็นรถไฟฟ้าเก๋งทั่วไปมากกว่ารถกระบะ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรเร่งปรับตัวและมีภาครัฐเข้ามาดูแลด้านมาตรฐานอย่างใกล้ชิดด้วย”นายเกษม กล่าว

นายปณิธาน จินดาภู รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขันแล้ว 837 กิจการ โดยเฉพาะปี 2558 มีสถานประกอบการเข้าร่วม 48 กิจการ สร้างมูลค่าเพิ่มต่อผลิตภาพทางเศรษฐกิจ 860 ล้านบาท

ภาพ...เอเอฟพี