'ยิ่งลักษณ์'แถลงปิดคดี เฮือกสุดท้าย ดิ้นสู้จำนำข้าว
คดีจำนำข้าวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินมาใกล้จะสุดทางหลักไมล์สำคัญที่ถูกจับตาเวลานี้อยู่ที่การแถลงปิดคดี
โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
คดีจำนำข้าวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินมาใกล้จะสุดทาง
หลักไมล์สำคัญที่ถูกจับตาเวลานี้อยู่ที่การแถลงปิดคดีของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการ “ดิ้นเฮือกสุดท้าย” ก่อนที่ศาลจะตัดสินคดีชี้ขาดในวันที่ 25 ส.ค.
ความสำคัญของการแถลงปิดคดีอยู่ตรงที่เป็นโอกาสในการชี้แจงหักล้างข้อกล่าวหา ทั้งในแง่ ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย อีกด้านยังเปิดโอกาสให้แสดงความคิดความเห็น ตลอดจนเรียกร้องความสนใจหรือส่งลูกอ้อนไปถึงบรรดาแม่ยก แฟนคลับ อันจะเป็นการปลุกเร้ามวลชนคู่ขนานไปอีกด้าน
ประเด็นแรก ในแง่เนื้อหารายละเอียดทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย น่าจะไม่มีรายละเอียดแตกต่างหรือแปลกใหม่จากที่เคยให้การในชั้นศาล ตลอดจนการไต่สวนพยานหลายปากในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ทั้งในแง่ประเด็นการแถลงเป็นนโยบายตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศชัดเจนว่าจะดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวจากชาวนา ต่อเนื่องด้วยการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ทั้งหมดกลายเป็นพันธสัญญาที่ไม่ทำให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ไม่อาจบิดพลิ้ว และต้องปฏิบัติตาม ไม่อาจหลีกเลี่ยง หรือเลิกราไปกลางคันได้
แม้จะมีข้อทักท้วงทั้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตลอดจนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายค้าน ที่เคยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อเห็นว่าโครงการนี้นำไปสู่ความเสียหาย เปิดช่องให้เกิดการทุจริต จนสร้างภาระงบประมาณจำนวนหลายแสนล้านบาท
อีกด้านหนึ่งเรื่องข้อทักท้วงในประเด็นความไม่โปร่งใสในโครงการนั้น อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงในประเด็นเหล่านี้ว่า ไม่ได้เพิกเฉยหรือปล่อยให้เกิดความเสียหายโดยไม่ได้ทำอะไร แต่ได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดในโครงการเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแล้ว
รายละเอียดการแถลงปิดคดีของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จึงหนีไม่พ้นประเด็นเหล่านี้ ยังไม่รวมข้อเท็จจริง หรือหลักฐานใหม่ ที่อาจจะเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่อุบไต๋รอไว้ใช้ในจังหวะนี้
แม้ที่ผ่านมาจะคาดการณ์กันว่าคงยากที่อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะมีหลักฐานใหม่มาหักล้าง เพราะไม่เช่นนั้น คงจะงัดหลักฐานใหม่มาต่อสู้ทางคดีตั้งแต่แรกแล้ว
นั่นทำให้คาดว่าอีกประเด็นที่จะถูกหยิบยกมาใช้ในการแถลงปิดคดีคือ “ลูกอ้อน” ร้องขอความเห็นใจจากสาธารณะ ซึ่งอาจจะลากไปถึงประเด็นเรื่องการถูกกลั่นแกล้งเลือกปฏิบัติ
เมื่อประเด็นข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย อาจจะใช้เป็นข้อต่อสู้ได้ลำบาก การเลือกใช้ “ยุทธศาสตร์” ขอความเห็นใจจากประชาชน โดยเฉพาะฐานเสียงกลุ่มที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอย่างเหนียวแน่น และมีจำนวนไม่น้อยอาจเป็นทางเลือกที่ดีในเวลานี้
นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ใช้หลังพิงมวลชนในการยืนหยัดต่อสู้คดี ซึ่งเจ้าตัวประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่หนีไปไหนจะยืนหยัดขอต่อสู้ตามกระบวนการ
ดังจะเห็นว่า อีกด้านหนึ่งมีความพยายามปลุกปั่นสร้างกระแส อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้ต่อสู้กับเผด็จการทหาร เทียบชั้น อองซานซูจี ของเมียนมา
จนกลายเป็นวิวาทะตอบโต้กันไปมาระหว่างอดีต สส.หญิงพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาหักล้างว่าคดีจำนำข้าวเป็นเรื่องของการทุจริตไม่ใช่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ไม่เพียงแค่ “เนื้อหา” ในคำแถลงปิดคดีที่คงจะต้องงัดแง่มุมมาหักล้างข้อกล่าวหา ไม่ว่าจะเรื่อง ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และลูกอ้อนแล้ว
อีกแง่มุมที่สำคัญคือ “มวลชน” ที่จะมาให้กำลังใจอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ วันที่ 1 ส.ค. ที่ถือเป็นการชิมลางก่อนจะที่ออกมารวมตัวกันในวันที่ 25 ส.ค.นี้
ดังนั้น หากมวลชนออกมาให้กำลังใจกันจำนวนมากย่อมมีผลและถือเป็นการกดดันการพิจารณาของศาลในทางอ้อม ซึ่งมีบางฝ่ายเริ่มออกมาดักคอบ้างแล้ว โดยเฉพาะ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นห่วงว่าจะเกิดการใช้มวลชนมากดดันการตัดสินของศาล
อย่างไรก็ตาม แม้จะเชื่อว่าการแถลงปิดคดีไปจนถึงวันนัดอ่านคำพิพากษาจะไม่มีมวลชนออกมาเคลื่อนไหวรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ด้วยระเบียบข้อจำกัดเรื่องการชุมนุม และไม่มีแกนนำประกาศตัวนำมวลชนมารวมพลกันที่ศาลเป็นเรื่องของต่างคนต่างไป
ดังนั้น พลังของมวลชนที่จะออกมารวมตัวรอบนี้ น่าจะเป็นเพียงแค่กลุ่มมวลชนจำนวนไม่มากเหมือนที่ผ่านมา แต่บางฝ่ายก็มองว่า นี่เป็นการดิ้นเฮือกสุดท้ายของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีผลดีต่อรูปคดีและคำตัดสินที่จะออกมา
รวมทั้งยังอาจนำไปใช้เป็นชนวนจุดประเด็นในการเคลื่อนไหวหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ทำให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมชุดควบคุมฝูงชนไว้รองรับแล้ว 2 กองร้อย ผสมกับชุดกองร้อยน้ำหวานอีก 1 หมวด คอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชน
การแถลงปิดคดีในวันนี้ของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จึงมีความสำคัญต่อคดีจำนำข้าว อันจะมีผลไปถึงกระบวนการทางปกครอง ติดตามทวงค่าเสียหายจาก 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งถูกระงับไว้เพื่อรอผลของคดี