LAARMA เสาสัญญาณ AI ป้องกันการชนสัตว์ป่า ตรวจจับแม่นยำถึง 97%

สำหรับคนเมืองเมื่อพูดถึงการขับรถชนสัตว์ป่าอาจเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดบ่อยหรืออาจไม่เคยเกิดเลย แต่ตามพื้นที่ต่างจังหวัดที่ใกล้ชิดธรรมชาตินี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไป แม้แต่ในประเทศไทยที่ขาดการเก็บรวมรวบสถิติอย่างจริงจัง แต่บางปีก็มีสัตว์ป่าถูกรถชนกว่า 14,000 ตัว ซึ่งถือเป็นจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว

 

วันนี้เราจึงจะมาพูดถึง AI ตรวจจับสัตว์ป่า สำหรับป้องกันอุบัติเหตุรถชนสัตว์ป่าโดยเฉพาะ

 

 

LAARMA ระบบ AI ป้องกันอุบัติเหตุต่อสัตว์ป่า

 

ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยร่วมจาก University of Sydney, Queensland University of Technology และกรมการขนส่งและทางหลวงรัฐควีนส์แลนด์ กับการคิดค้น LAARMA เสาสัญญาณอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สามารถตรวจจับสัตว์ป่าตามท้องถนนและแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยระดับความแม่นยำถึง 97%

 

ตัวระบบได้รับการติดตั้งอยู่บนเสาสัญญาณไฟจราจรข้างทาง อาศัยอุปกรณ์สำหรับตรวจจับ 3 ชนิด ได้แก่กล้องทั่วไป กล้องจับความร้อน และเซ็นเซอร์ LiDAR เพื่อวัดระยะและสร้างภาพ 3 มิติของวัตถุที่ตรวจจับได้ เมื่อตรวจพบระบบจะทำการแจ้งเตือนผู้ใช้ท้องถนนผ่านสัญญาณไฟแบบเรียลไทม์

 

จุดเด่นสำคัญของ LAARMA คือ ไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์คอยป้อนหรือติดป้ายกำกับข้อมูลให้เรียนรู้ เมื่อได้รับข้อมูลเบื้องต้นมันจะเก็บภาพเพื่อจดจำลักษณะสัตว์ที่เป็นเป้าหมาย นำไปใช้เป็นฐานข้อมูลเพื่อให้ตรวจจับได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มระดับความแม่นยำจากเพียง 4.2% พุ่งสูงเป็น 78.5% ในระยะเวลาไม่กี่เดือน

 

พวกเขาได้ทำการทดสอบเสาสัญญาณอัจฉริยะ AI นี้พื้นที่ Far North Queenland ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่มักเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชน Cassowary นกพื้นเมืองทวีปออสเตรเลียที่มีลักษณะคล้ายนกกระจอกเทศ ก่อนพบว่า LAARMA มีความแม่นยำในการตรวจจับถึง 97% และทำให้ผู้ใช้ถนนลดความเร็วในการขับขี่ในช่วงเวลานกผ่านลง 6.3 กิโลเมตร/ชั่วโมง

 

สิ่งนี้นับเป็นตัวชี้วัดว่า เมื่อ LAARMA ถูกนำไปใช้งานทั่วไป อาจช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

 

 

การเข้าถึงเรียบง่ายและเหมาะสำหรับใช้งานทุกภูมิภาค

 

หลายท่านอาจรู้สึกไม่มีอะไร LAARMA ก็เป็นแค่ไฟสัญญาณเตือนสัตว์อันตราย ที่มักติดตั้งในพื้นที่ป่าหรือเขตอนุรักษ์เท่านั้น แต่ข้อแตกต่างสำคัญของเสาสัญญาณอัจฉริยะคือ การแจ้งเตือนเรียลไทม์เฉพาะเวลาที่มีสัตว์ป่าวิ่งผ่าน ซึ่งกระบวนการนี้ช่วยให้คนขับมีความรู้สึกตื่นตัวมากกว่าป้ายไฟที่มักกระพริบให้เห็นจนชินตา ช่วยลดอุบัติเหตุได้มากกว่า

 

อันดับถัดมาคือ คุณสมบัติในการเรียนรู้อัตโนมัติของระบบ เดิมการตรวจจับสัตว์ป่าภายในป่าเป็นเรื่องซับซ้อน เนื่องจากอาจได้ภาพถ่ายเพียงบางส่วน เช่น อยู่หลังต้นไม้ หลบในพุ่ม ฝนตก มีแสงน้อย หรือหมอกลง การป้อนข้อมูลทุกแบบด้วยมือเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อ LAARMA สามารถเรียนรู้ได้เองทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เพราะ AI จะยิ่งแม่นยำขึ้นตามจำนวนภาพที่เก็บได้

 

อุปกรณ์ที่ใช้งานยังเป็นอุปกรณ์ที่จัดหาได้ทั่วไปไม่มีการใช้งานอะไรซับซ้อน อาศัยเพียงกล้อง กล้องจับความร้อน เซ็นเซอร์ LiDAR และป้ายสัญญาณไฟจราจรเท่านั้น จึงสามารถนำไปติดตั้งร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานเดิมในราคาไม่สูงมาก ทั้งยังทำความเข้าใจง่ายต่อผู้ขับขี่ตามเส้นทาง ไม่ต้องเสียเวลามาเรียนรู้หรือปรับตัวเพิ่มเติม

 

ในขั้นตอนทดสอบเป้าหมายหลักของพวกเขาคือ Cassowary ที่เป็นนกพื้นถิ่น แต่เมื่อทำการป้อนและปรับแต่งให้ดี เซ็นเซอร์สามารถนำไปใช้ตรวจจับสัตว์ท้องถิ่นได้ทุกชนิด เช่น แพนด้าแดงในเนปาล ตัวกินมดยักษ์ในบราซิล เสือดาวหิมะในเอเชียกลาง หรือสัตว์ป่าอนุรักษ์และสัตว์สงวนทุกชนิดที่ประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

 

แม้จะไม่มีตัวเลขสถิติออกมาให้เห็นชัด เนื่องจากปัจจุบัน LAARMA ยังเป็นโครงการที่อยู่ในช่วงทดลองใช้งาน แต่เมื่อประเมินแนวโน้มคาดว่าจะให้ผลลัพธ์ออกมาดีเยี่ยม และจะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจราจร ไม่เพียงเป็นการช่วยชีวิตสัตว์ แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ขับขี่อีกด้วย

 

ปัจจุบัน LAARMA สามารถเข้าถึงและนำไปปรับใช้ในแต่ละท้องถิ่นได้ในฐานะโอพนเซอร์สอบน GitHub

 

 

 

 

จริงอยู่นี่อาจเป็นโมเดลและความสำเร็จที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ แต่ด้วยอุปกรณ์เบื้องต้นที่จัดหาและติดตั้งง่าย โค้ดก็สามารถนำไปใช้งานได้ในฐานะโอเพนซอร์ส LAARMA จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจที่อาจมาปรับใช้ได้กับประเทศไทย และอาจนำมาใช้งานร่วมกับช้างป่า เช่น กุยบุรีโมเดล ที่สนใจนำ AI มาตรวจจับช้างได้ต่อไป

 

 

ที่มา

 

https://imoveaustralia.com/project/project-outcomes/large-australian-animals-and-cars-safety-for-all/

 

https://techxplore.com/news/2025-08-world-ai-roadside-technology-animalvehicle.html

 

https://www.scimath.org/article-biology/item/11201-road-kills