ซีอีโอ AWS มั่นใจ AI Agent พลิกโฉมธุรกิจแรงเท่าเน็ตและคลาวด์

 ยุคแห่ง AI Agent จุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ของโลกธุรกิจ

 

งานประชุม re:Invent ที่ลาสเวกัส แมตต์ การ์แมน (Matt Garman) ซีอีโอของ Amazon Web Services (AWS) พูดในประเด็นที่สร้างความตื่นตัวให้กับวงการไอทีทั่วโลก เมื่อเขาระบุว่า เทคโนโลยี "AI Agent" หรือปัญญาประดิษฐ์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนปฏิบัติงาน กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญและสร้างผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างมหาศาล เทียบเท่ากับการถือกำเนิดของ "อินเทอร์เน็ต" หรือ "คลาวด์คอมพิวติ้ง"

 

จากแชตบอตสู่ผู้ช่วยอัตโนมัติ: จุดเปลี่ยนที่แท้จริง

 

การ์แมนมองว่าเรากำลังยืนอยู่บน "จุดเปลี่ยนสำคัญ" (Inflection point) ของวิวัฒนาการ AI ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายองค์กรได้ทดลองใช้งานแชตบอตและผู้ช่วย AI กันอย่างแพร่หลาย แต่ทิศทางต่อจากนี้กำลังเปลี่ยนไปสู่ยุคของ "เอเจนต์" ที่มีความสามารถเหนือกว่า กล่าวคือ มันไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ช่วยเสริมกระบวนการทำงาน (Supplementing workflows) แต่สามารถทำงานแทนพนักงานได้โดยอัตโนมัติ (Operating autonomously)

 

กุญแจสู่การปลดล็อกมูลค่าทางธุรกิจ ประเด็นที่น่าสนใจคือ การ์แมนยอมรับว่าที่ผ่านมาลูกค้าจำนวนมากยังไม่เห็นผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ที่คุ้มค่าจากกระแส Generative AI เท่าที่ควร แต่เขาเชื่อมั่นว่า AI Agent จะเป็นกุญแจสำคัญที่เข้ามาแก้ไขปัญหานี้และเริ่มสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้จริง

 

"ความเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณมากเท่ากับอินเทอร์เน็ตหรือคลาวด์" การ์แมนกล่าว พร้อมเสริมวิสัยทัศน์ว่าในอนาคตจะมีเอเจนต์นับพันล้านตัวแฝงอยู่ในทุกบริษัทและทุกสาขาอาชีพ

 

นิยามใหม่ของ "Frontier Agents" เพื่อตอบรับแนวโน้มดังกล่าว AWS ได้นิยามเอเจนต์ยุคใหม่ว่าเป็น "Frontier Agents" ซึ่งมีความสามารถในการทำงานอัตโนมัติได้อย่างสมบูรณ์เป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวันโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์ นอกจากนี้ยังสามารถเรียนรู้และปรับปรุงการทำงานได้เองจากการสังเกตพนักงานที่เป็นมนุษย์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ยกระดับเทคโนโลยีนี้ขึ้นไปอีกขั้น