50 ปีความสัมพันธ์ไทย–จีน “นฤมล” ชู AI ยกระดับการเรียนภาษาจีนทั่วประเทศ
“นฤมล” ขึ้นเวที World Chinese Language Conference 2025 ชูบทบาทนวัตกรรม–AI ยกระดับการเรียนภาษาจีนทั่วประเทศ ในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย–จีน
KEY
POINTS
- ในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ประกาศนโยบายยกระดับการเรียนการสอนภาษาจีนทั่วประเทศไทย
- ชูการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาเป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อเพิ่มคุณภาพและสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการเรียนรู้ภาษาจีน
- AI จะทำหน้าที่เสมือนติวเตอร์ส่วนตัว ช่วยตรวจสอบการออกเสียงแบบเรียลไทม์ และปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน ทำให้การเรียนรู้ไร้พรมแดน
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม World Chinese Language Conference 2025 ณ Hall A ชั้น 4 กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “นวัตกรรมขับเคลื่อน ปัญญาประดิษฐ์เสริมพลัง เรียนรู้ภาษาจีนอย่างไร้พรมแดน” โดยเน้นบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการยกระดับคุณภาพและการเข้าถึงการเรียนการสอนภาษาจีนอย่างทั่วถึงในประเทศไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการระบุว่า ปี 2568 ถือเป็นปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับไทยและจีน เนื่องจากเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศได้ขยายตัวอย่างเข้มแข็งในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และโดยเฉพาะด้านการศึกษา
โอกาสนี้ยังสอดคล้องกับการเสด็จฯ เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 13–17 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งยิ่งเป็นการตอกย้ำมิตรภาพและความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างไทย–จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดย ศ.ดร.นฤมล ระบุว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเปรียบเสมือน “พี่น้อง” สะท้อนสายใยที่มั่นคงสืบเนื่องมาอย่างยาวนาน
ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวถึงทิศทางความร่วมมือทางการศึกษาที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปัจจุบันมีนักเรียนจีนกว่า 28,000 คน ศึกษาในสถาบันการศึกษาไทย ขณะที่มีนักเรียนไทยมากกว่า 30,000 คน ศึกษาในสถาบันการศึกษาของจีน ความร่วมมือดังกล่าวเกิดจากโครงการร่วมหลายรูปแบบ และโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศตาม แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566–2570) ที่มุ่งพัฒนาทุนมนุษย์เพื่อรองรับโลกอนาคต
กระทรวงศึกษาธิการได้พัฒนา National Digital Learning Platform (NDLP) เพื่อให้ผู้เรียนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้คุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับทักษะสำคัญของเยาวชนไทย ทั้งทักษะดิจิทัล ความคิดวิเคราะห์ และความสามารถด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาจีน ซึ่งถือเป็นทักษะยุทธศาสตร์ที่เชื่อมไทยสู่เวทีเศรษฐกิจและวิทยาการระดับโลก
ส่วนบทบาทของ AI นั้น ศ.ดร.นฤมลชี้ว่า เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้การเรียนภาษาจีน “ไร้พรมแดน” อย่างแท้จริง โดย AI จะช่วยในสองด้านหลัก คือ
1.ยกระดับการเรียนการสอน ทำหน้าที่เสมือนติวเตอร์ส่วนตัว ตรวจสอบการออกเสียงแบบเรียลไทม์ และปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน
2.สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ทำให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงเนื้อหาและทรัพยากรคุณภาพสูงได้ไม่ต่างจากนักเรียนในเมืองใหญ่
รมว.ศึกษาธิการกล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการจะเดินหน้าขยายหลักสูตรและโครงการภาษาจีนในทุกระดับการศึกษา ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา ไปจนถึงอุดมศึกษา
ท้ายที่สุด ศ.ดร.นฤมล ระบุว่า ภาษาจีนไม่ใช่เพียงเครื่องมือสื่อสาร แต่เป็น “สะพานเชื่อมสองอารยธรรม” ที่นำไปสู่สันติภาพ ความเข้าใจ และความรุ่งเรืองร่วมกัน พร้อมยืนยันว่ากระทรวงศึกษาธิการของไทยพร้อมร่วมมือกับทุกภาคี เพื่อผลักดันการเรียนภาษาจีนให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน และใช้เทคโนโลยีสร้างโอกาสการเรียนรู้ที่เท่าเทียมสำหรับผู้เรียนทุกคนทั่วประเทศ.


