YouTube ใจอ่อน เปิดทาง "ช่องที่เคยถูกแบน" กลับมาอัปคลิปได้

 

ตามรายงานจากสำนักข่าว CNN YouTube ได้ประกาศนโยบายใหม่ โดยเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ที่เคยถูกแบนในอดีต สามารถยื่นคำร้องเพื่อกลับมาสร้างบัญชีใหม่ได้อีกครั้ง

 

แม้คอนเทนต์บางส่วนที่เคยเป็นเหตุให้ถูกแบน เช่น ข้อมูลเท็จเรื่องโควิด-19 หรือผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ  ก็สามารถกลับมาเผยแพร่ได้ หากไม่ขัดต่อนโยบายใหม่ที่ผ่อนปรนแล้วในปัจจุบัน

 

ท่าทีของ YouTube เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากฝ่ายการเมืองในสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่ม ส.ส. พรรครีพับลิกัน ที่ตั้งคำถามว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กดดันให้บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ลบเนื้อหาบางประเภทออกไปหรือไม่

 

และยังสอดคล้องกับเทรนด์ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในซิลิคอนวัลเลย์ ที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเนื้อหามากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา

 

โฆษกของ YouTube ระบุว่า "ครีเอเตอร์หลายคนสมควรได้รับโอกาสครั้งที่สอง" และยอมรับว่าที่ผ่านมาบริษัทเองก็มีการเรียนรู้และปรับเปลี่ยนนโยบายมาโดยตลอดเช่นกัน

 

 

ช่อง YouTube ถูกแบน ต้องทำยังไง?

 

ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2025 เป็นต้นไป ผู้ใช้งานที่เคยถูกแบนบางรายจะเห็นตัวเลือกให้ "ยื่นคำร้องเพื่อสร้างบัญชีใหม่" เมื่อพยายามลงชื่อเข้าใช้บัญชีเก่าที่เคยถูก YouTube แบน

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เคยถูกแบนจะสามารถยื่นเรื่องเพื่อกลับมาได้ทันที โดย YouTube ได้วางเงื่อนไขไว้หลายข้อ ดังนี้

 

• ต้องเป็นช่องที่ถูกแบนมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี

 

• ครีเอเตอร์จะต้องยื่นคำร้องผ่านระบบ เพื่อให้ทีมงานพิจารณาเป็นรายกรณี

 

• จะมีการตรวจสอบพฤติกรรมในอดีตว่าการละเมิดกฎนั้น "ร้ายแรงและทำซ้ำซาก" หรือไม่ รวมถึงพฤติกรรมบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ด้วย

 

• จะไม่อนุมัติ ให้กับช่องที่ถูกแบนจากการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือทำผิดนโยบายความรับผิดชอบของครีเอเตอร์อย่างรุนแรง

 

กู้ช่องได้ แต่ต้อง ‘นับหนึ่งใหม่’ ทั้งหมด

 

หากคำร้องได้รับการอนุมัติ ครีเอเตอร์จะไม่ได้รับช่องเดิมที่มีผู้ติดตามกลับคืนมา แต่จะต้อง "เริ่มต้นสร้างช่องใหม่ทั้งหมด"

 

อย่างไรก็ดี ครีเอเตอร์สามารถนำวิดีโอเก่าจากช่องเดิมมาอัปโหลดใหม่ได้ ตราบใดที่เนื้อหานั้นไม่ผิดกฎเกณฑ์ปัจจุบันของ YouTube

 

ซึ่งหมายความว่าวิดีโอที่เคยเป็นประเด็นให้ถูกแบนในอดีต อาจไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปในวันนี้

 

นอกจากนี้ ครีเอเตอร์ที่เคยถูกแบนยังมีสิทธิ์สมัครเข้าร่วมโครงการสร้างรายได้ (YouTube Partner Program) ได้เหมือนครีเอเตอร์ทั่วไป

 

และจะอยู่ภายใต้นโยบาย "เตือน 3 ครั้ง" (Three-Strike Policy) เหมือนกับผู้ใช้งานคนอื่น ๆ

 

YouTube ให้เหตุผลว่า การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในครั้งนี้คือการตอกย้ำ "ความมุ่งมั่นต่อเสรีภาพในการแสดงออก" และต้องการสร้างความมั่นใจว่าผู้ใช้งานเข้าใจกฎระเบียบอย่างชัดเจนก่อนจะถูกลงโทษขั้นรุนแรง

 

ท่าทีดังกล่าวสะท้อนภาพรวมของวงการเทคโนโลยี ที่ก่อนหน้านี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta ก็เคยประกาศว่า

 

บริษัทจะ "กลับคืนสู่รากเหง้าในเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทิศทางการปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก