ยังกับหนัง! ญี่ปุ่นเปิดตัวแคปซูลควบคุมหุ่นยนต์ด้วยการนอน

เชื่อว่าหลายท่านคงเคยรับชมภาพยนตร์หรือการ์ตูนที่มีหุ่นยนต์ที่เราสามารถบังคับควบคุมจากระยะไกล อาศัยอุปกรณ์สวมศีรษะหรือแคปซูลเพื่อเชื่อมต่อคำสั่งของเราเข้ากับหุ่นยนต์ เพื่อรับและถ่ายทอดประสบการณ์ในชีวิต โดยที่เราไม่จำเป็นต้องขยับออกจากจุดเดิมกันมาบ้าง

 

เดิมเราเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่อยู่แต่ในภาพยนตร์ แต่จะเป็นอย่างไรถ้ามันกำลังถูกพัฒนาขึ้นมาจริงๆ

 

 

Capsule Interface ที่ให้เรานอนควบคุมหุ่นยนต์จากการนอน

 

ผลงานนี้เป็นของบริษัท HSL สตาร์ทอัพจากประเทศญี่ปุ่น กับการคิดค้นพัฒนา Capsule Interface อุปกรณ์ควบคุมภายนอกสำหรับเชื่อมต่อและบังคับหุ่นยนต์จากระยะไกล พร้อมระบบ AI ช่วยให้หุ่นยนต์เคลื่อนไหวและโต้ตอบได้อย่างแม่นยำตามใจคิดแบบเรียลไทม์ ใกล้เคียงกับการขยับร่างกายของมนุษย์

 

Capsule Interface มีหน้าตาใกล้เคียงกับ เก้าอี้นวดรูปทรงแคปซูล ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งประสิทธิภาพสูง คอยตรวจจับการคลายและหดตัวของกล้ามเนื้อที่มีความละเอียดอ่อน เพี่อจำลองการขยับของกล้ามเนื้อในการยกและออกแรงของคนจริงเป็นข้อมูล แปลงไปเป็นข้อมูลแรงที่ใช้งานในแต่ละครั้ง

 

ตัวหุ่นได้รับการติดตั้ง Teleoperated Whole-Body Imitation System หรือ TWIST ระบบ AI ทำหน้าที่แปลงข้อมูลการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อและกระดูกของมนุษย์ มาแปลงเป็นอินพุทข้อมูลให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์ที่อาจมีกลไกทำงานแตกต่างกันอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและทำความเข้าใจการบังคับได้ราบรื่น

 

ตัวหุ่นของ HSL ยังได้รับการออกแบบโดยการจำลองมาจากกล้ามเนื้อของมนุษย์ ทำให้สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของการสัมผัสและแรงที่ส่งผ่านเซ็นเซอร์ไปได้อย่างสมจริง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับรู้ของน้ำหนัก การสัมผัส และการประมาณแรงได้ รองรับการใช้และทำงานที่มีความละเอียดอ่อนสูง

 

นี่จึงเป็นการช่วยเพิ่มขอบเขตการทำงานของหุ่นยนต์ให้กว้างและหลากหลายมากยิ่งขึ้น

 

 

จุดเด่นและความเป็นไปได้ในการใช้งาน

 

จริงอยู่เมื่อพูดถึงหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์พวกเขาไม่ใช่เจ้าแรก สหรัฐฯและจีนต่างพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อนำมาใช้จริงอย่างกว้างขวาง บางส่วนก็มีการปรับแต่งให้สามารถบังคับจากระยะไกล เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานและช่วยรับมือสถานการณ์ฉพาะหน้าได้ดี ในขณะที่ญี่ปุ่นล้าหลังในด้านนี้กว่าด้วยซ้ำ

 

ส่วนสำคัญที่ทีมพัฒนายืนยันว่า Capsule Interface ของพวกเขาโดดเด่นคือ ระบบตรวจจับแรงและการเคลื่อนไหวระดับสูงที่รับรู้ถึงระดับแรงที่ใช้งาน ทั้งยังจำลองการเคลื่อนไหวและการออกแรงได้ดี จึงเป็นหุ่นยนต์ที่โดดเด่นทั้งในด้านความละเอียดอ่อนและแม่นยำ พร้อมจำลองคุณสมบัติร่างกายของเราออกมาได้สมจริงยิ่งกว่าหุ่นยนต์ตามท้องตลาด

 

อันดับถัดมาคือ การใช้งานเรียบง่าย อุปกรณ์ควบคุมหุ่นยนต์ตามปกติต้องอาศัยคันบังคับหรือรีโมทเฉพาะที่เทอะทะ มีน้ำหนักมาก ในขณะที่ Capsule Interface เพียงแค่สวมอุปกรณ์ลงไปแล้วขยับร่างกายเพียงเล็กน้อย เซ็นเซอร์จะทำให้หุ่นเคลื่อนไหวตามทิศทาง ใกล้เคียงกับการขยับร่างกายตามปกติ จึงเรียนรู้การใช้งานง่ายและรวดเร็ว

 

การใช้งานในท่านั่งหรือนอนยังลดภาระการทำงานของร่างกาย เทียบกับหุ่นยนต์แบบอื่น เช่น Exoskeleton หรือ อุปกรณ์ VR ทั่วไป เพราะสามารถใช้งานได้สะดวกแม้อยู่ในท่านั่งหรือนอน ลดภาระที่ต้องแบกระหว่างใช้งาน เพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มคนได้กว้างกว่า เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ไปจนผู้ป่วยบางกลุ่ม

 

จุดเด่นสำคัญของ Capsule Interface ที่นอกจากจะใช้ในอุตสาหกรรม โรงงาน หรืองานบ้านทั่วไปแบบหุ่นยนต์รุ่นอื่น ตัวหุ่นยังสามารถทำหน้าที่เป็นอวตาร์ของเราในการเดินทาง เข้ารับประสบการณ์ หรือติดต่อสื่อสารแทน โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดฝังชิปที่ต้องใช้เทคโนโลยี BCI ในการควบคุม

 

นี่จึงไม่ใช่เพียงหุ่นยนต์สำหรับมาช่วยงานเท่านั้น แต่อาจช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพให้แก่มนุษย์ในอนาคต

 

 

 

ปัจจุบันตัวหุ่นยนต์และ Capsule Interface ยังคงอยู่ในระหว่างวิจัยและพัฒนา ยังต้องได้รับการปรับปรุงอีกมากหากต้องการนำมาใช้จริง แต่เมื่อประเมินว่านี่คือบริษัทผู้พัฒนา ปลอกแขนรับความรู้สึกเจ็บบน Metaverse ในปี 2022 โอกาสที่หุ่นนี้จะได้รับการพัฒนาออกมาให้ใช้งานก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว

 

Capsule Interface และหุ่นยนต์ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่าย แต่ราคาขายเบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่ 30 ล้านเยน(ราว 6.46 ล้านบาท)

 

 

 

ที่มา

 

https://interestingengineering.com/innovation/japan-tech-turns-body-into-robot-remote

 

https://www.youtube.com/watch?v=8a46Uap367k

 

https://www.techeblog.com/h2l-capsule-interface-humanoid-robot/