AI ทำพิษ! Salesforce ปลดพนักงาน 4 พันตำแหน่ง อ้างเทคโนโลยีทำงานแทน

 

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Salesforce บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์คลาวด์ ได้เลิกจ้างพนักงานในฝ่ายสนับสนุนลูกค้าไปแล้วถึง 4,000 ตำแหน่ง

 

โดย มาร์ค เบนิออฟ (Marc Benioff) ซีอีโอของบริษัทให้เหตุผลว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามาทำงานในส่วนดังกล่าวแทนที่พนักงานกลุ่มนี้ หลังจากที่เคยระบุว่า AI เข้ามามีบทบาทในกระบวนการทำงานของบริษัทถึง 30-50%

 

อย่างไรก็ตาม การปรับลดพนักงานครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่น่ากังวลและสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

 

เพราะล่าสุด Salesforce เพิ่งประกาศคาดการณ์รายได้ในไตรมาสที่ 3 ต่ำกว่าที่ Wall Street คาดการณ์ไว้

 

สะท้อนให้เห็นว่าการทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลไปกับเทคโนโลยี AI นั้น ยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมหรือแปลงเป็นรายได้ตามที่คาดหวังไว้ได้

 

กระแสดังกล่าวได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้นจนราคาดิ่งลงกว่า 5% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการทันที

 

แม้ว่าบริษัทจะพยายามอัดฉีดความเชื่อมั่นด้วยการประกาศเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) อีก 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งแรงเทขายได้

 

สถานการณ์ดังกล่าวยังตอกย้ำถึงแรงกดดันที่บริษัทเทคโนโลยีกำลังเผชิญ เมื่อนักลงทุนเริ่มหมดความอดทนและทวงถามถึงผลตอบแทนที่จับต้องได้จากการลงทุนใน AI

 

ซึ่ง Salesforce ได้เดินหน้าเต็มกำลังนับตั้งแต่กระแส ChatGPT จุดติดตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ทั้งการผนวก AI เข้ากับทุกบริการของบริษัท และการเปิดตัวแพลตฟอร์ม "Agentforce"

 

 

เมลิสซา ออตโต (Melissa Otto) หัวหน้าฝ่ายวิจัยจาก Visible Alpha ของ S&P Global วิเคราะห์ว่า

 

"นักลงทุนอาจรู้สึกผิดหวัง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงระยะเวลาที่ต้องรอคอยเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมจากการลงทุนใน AI"

 

ทั้งนี้ สำหรับตัวเลขที่ Salesforce เพิ่งประกาศคาดการณ์รายได้ไตรมาส 3 อยู่ที่ระหว่าง 1.024 - 1.029 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้